เนปาลเริ่มบูรณะโบราณสถานหลังแผ่นดินไหว
นายเพช นารายัน ดาฮาล ผู้อำนวยการกรมโบราณคดีเนปาล เปิดเผยว่า โบราณสถานประมาณ 200 แห่ง หรือร้อยละ 90 ของโบราณสถานทั้งหมดในประเทศ ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวรวมทั้งจัตุรัสดูร์บาร์ทั้ง 3 แห่งในกรุงกาฐมาณฑุ เมืองภัคตะปูร์และเมืองปาตาน ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นมรดกโลกขณะนี้่ทางการเนปาลได้ส่งนักโบราณคดีลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความเสียหายและวางแผนการบูรณะและก่อสร้างโบราณสถานที่ได้รับความเสียหายขึ้นมาใหม่แล้ว
ผู้อำนวยการกรมโบราณสถานเนปาล ระบุว่า นักโบราณคดีจะต้องวาดโครงสร้างเดิมของโบราณสถานแต่ละแห่งขึ้นมาอย่างละเอียด ซึ่งในขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีจนกว่าจะแล้วเสร็จ ขณะที่การบูรณะและก่อสร้างจะใช้เวลานาน 5 - 7 ปี โดยจะใช้วัสดุแบบเดิมในการก่อสร้างและการดำเนินการดังกล่าวจำเป็นต้องใช้งบประมาณหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยฟื้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
ข้อมูลของทางการเนปาล ระบุว่า ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 800,000 คนเดินทางมาเยี่ยมชมมรดกทางวัฒนธรรมและวัดโบราณต่างๆ ในเนปาล ขณะที่องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(ยูเนสโก) และผู้บริจาคนานาชาติได้เสนอให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนในการอนุรักษ์และฟื้นฟูโบราณสถานให้กับทางการเนปาลแล้ว
แม้เหตุแผ่นดินไหวจะผ่านมาร่วม 2 สัปดาห์แล้วแต่เด็กนักเรียนในเนปาลยังไม่สามารถกลับไปเรียนหนังสือได้ เนื่องจากโรงเรียนหลายแห่งพังถล่มเสียหายครูจากโรงเรียนมัธยมดูร์บาร์ในกรุงกาฐมาณฑุ เล่าว่า อาคารเรียนพังเสียหายทั้งหมด ไม่รู้ว่าจะสร้างขึ้นมาใหม่ได้เมื่อใด ทำให้โรงเรียนได้ตรียมเปิดสอนนอกสถานที่เป็นการชั่วคราว ซึ่งจะสามารถดำเนินการได้ภายใน 1 เดือน
ขณะที่กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติและองค์การอนามัยโลกได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เนปาล เร่งฉีดวัคซีนที่จำเป็นให้กับเด็กเนปาลที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ในกรุงกาฐมาณฑุ ก่อนที่จะเข้าฤดูมรสุม ซึ่งจะทำให้ความเป็นอยู่ที่ไม่ถูกสุขลักษณะย่ำแย่ลงไปอีก และอาจทำให้เด็กเล็กเสี่ยงต่ออาการเจ็บป่วยและติดเชื้อโรคต่างๆ ที่มากับฝนได้