ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ทนายสายหยุด ยันมีหลักฐานพิสูจน์ "ษิทรา" ไม่เข้าข่ายความผิดฉ้อโกง

อาชญากรรม
9 พ.ย. 67
17:55
1,443
Logo Thai PBS
ทนายสายหยุด ยันมีหลักฐานพิสูจน์ "ษิทรา" ไม่เข้าข่ายความผิดฉ้อโกง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
นายสายหยุด ทนายความของนายษิทรา -ภรรยา ยืนยันมีหลักฐานพิสูจน์ข้อเท็จจริงสู้คดีไม่เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง เตรียมเข้าเยี่ยมทนายตั้ม 11 พ.ย.นี้

จากกรณีที่ตำรวจจับกุม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด และภรรยา ในคดีที่ น.ส.จตุพร หรือ "เจ๊อ้อย" กล่าวหาว่าถูกฉ้อโกงเงินหลายจำนวน มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ล่าสุด ทนายความของนายษิทรา ให้ข้อมูล ยืนยันมีหลักฐานพิสูจน์ข้อเท็จจริงสู้คดีไม่เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง  

อ่านข่าว : เส้นทาง "ทนายตั้ม" บทบาททนายความบนความสนใจของสังคม

วันนี้ (9 พ.ย.2567) นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม และภรรยา ออกมาให้ข้อมูลทางคดี หลังอ่านสำนวนการสอบสวนขอตำรวจแล้วพบว่ามีช่องทางต่อสู้ ในสำนวนตำรวจดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 1 คดี โดยแจ้งข้อหานายษิทรา 3 ข้อหา คือฉ้อโกงเป็นปกติธุระฯ, ฟอกเงิน, ร่วมกันหรือสมคบกันฟอกเงิน ส่วนนางปทิตตา ถูกแจ้งดำเนินคดี 1 ข้อหาคือ ร่วมกันหรือสมคบกันฟอกเงิน

ใน 1 คดี ตำรวจสอบปากคำผู้กล่าวหาแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือเรื่องของเงิน 71 ล้านบาท ที่ถูกกล่าวหาว่านายษิทราหลอกเอาเงินไปลงทุนธุรกิจขายสลากกินแบ่งออนไลน์, เรื่องของส่วนต่างการซื้อรถยนต์หรู จำนวน 12.9 ล้านบาท และเรื่องของค่าดำเนินการออกแบบโครงการก่อสร้างโรงแรมที่ จ.นครราชสีมา ส่วนเรื่องเงิน 39 ล้านบาท ยังไม่ถูกนำมาประกอบในสำนวนคดี

นายสายหยุด เพ็งบุญชู

นายสายหยุด เพ็งบุญชู

นายสายหยุด เพ็งบุญชู

นายสายหยุด กล่าวว่า ตามพยานหลักฐานที่มีสามารถต่อสู้คดีได้ โดยเฉพาะเรื่องของการออกแบบโครงการก่อสร้างโรงแรม ที่มีหลักฐานการเสนอราคา สัญญาจ้างกับบริษัทออกแบบในราคา 9 ล้านบาท โดยจ่ายค่าจ้างตามจริงไปแล้ว กว่า 3 ล้านบาท ที่เหลืออยู่ในส่วนของบริหารจัดการ โดยอ้างเรื่องของค่าออกแบบภานใน และส่วนอื่น ๆ รวมถึงค่าแรงของนายษิทราที่ได้รับความไว้วางใจจากนางจตุพร โอนเงินให้กับนายษิทรา เป็นผู้ดูแลในส่วนนี้

เช่นเดียวกับกรณีการซื้อรถยนต์หรู นายสายหยุด ยืนยันว่ามีพยานหลักฐานการซื้อขายจากไฟแนนซ์เป็นเงินสดจำนวน 12.9 ล้านบาท โดยได้ค่าคอมมิชชัน 1,500,000 บาท จากไฟแนนซ์ เป็นค่าแนะนำคนมาซื้อขายรถ พร้อมปฎิเสธกรณีที่ปล่อยเช่าให้กับชาวต่างชาติ ไม่เป็นความจริงสามารถตรวจสอบได้

จากหลักฐานที่มี ทั้ง 2 เรื่องที่กล่าวไปข้างต้น นายสายหยุด เปิดเผยว่าหากศาลยกคำร้อง นายษิทราและภรรยาจะไม่เข้าข่ายการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงเป็นปกติธุระ และการฟอกเงิน

แฟ้มภาพ : ษิทรา เบี้ยบังเกิด

แฟ้มภาพ : ษิทรา เบี้ยบังเกิด

แฟ้มภาพ : ษิทรา เบี้ยบังเกิด

แต่ในเรื่องของเงิน 71 ล้านบาท ที่ถูกกล่าวหาว่าหลอกเอาเงินไปลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์ นายสายหยุด ยังคงกังวลในเรื่องนี้ที่พยานหลักฐานมีเพียงคำให้การ และเส้นทางการเงินที่โอนให้กันระหว่างนางจตุพร กับนายษิทรา โดยนายสิทธาให้ข้อมูลกับตัวเองว่า การโอนเงินให้ไม่มีหลักฐานหรือสัญญาการกู้ยืมเงิน ไม่ได้มีสัญญาทำธุรกิจร่วมกัน และนางจตุพรไม่ได้ทวงถามหนี้สิน ทำให้นายษิทราเข้าใจว่าเป็นการให้โดยเสน่หา กรณีที่ตำรวจแจ้งข้อหาฟอกเงิน อาจจะเป็นข้อมูลที่นายษิทรา ได้กล่าวอ้างว่าจะนำเงินที่ได้มาลงทุนธุรกิจ แต่ทำไม่ได้จริง จึงนำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้จ่ายส่วนตัว

แฟ้มภาพ ภรรยา ของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม

แฟ้มภาพ ภรรยา ของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม

แฟ้มภาพ ภรรยา ของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม

สำหรับการเข้าเยี่ยมนายษิทราหลังถูกคุมขัง นายสายหยุดจะเดินทางไปที่เรือนจำ พิเศษกรุงเทพฯ วันที่ 11 พ.ย.นี้ เพื่อเข้าพูดคุยกับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ถามถึงเรื่องการต่อสู้คดี และความเป็นอยู่โดยทั่วไป ส่วนการยื่นขอประกันตัว จะยื่นขอประกันตัวนางปทิตตา ภรรยาของนายษิทรา ช่วงฝากขังผัดที่ 2 ส่วนนายษิทรา ยังคงต้องดูสถานการณ์ การสอบสวนของตำรวจก่อน

อ่านข่าว : โชว์ฟอร์มเยี่ยม "โกเมธ สุขประเสริฐ" คว้าแชมป์ BMX นานานาชาติ

"ธรรมนัส" ยันไม่รู้จัก "ทนายตั้ม" - ร่วมกฐิน "ทักษิณ" ไร้นัยการเมือง

อดใจรอ! "แพนด้ายักษ์" คู่ใหม่ถึงไทยปี 70

ข่าวที่เกี่ยวข้อง