“มีเดีย มอนิเตอร์” เสนอสื่อไทยรายงานที่มาความขัดแย้งการเมือง

เวทีเสวนาสื่อมวลชนไทยหลังความขัดแย้ง ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่านักข่าวไทยยังขาดประสบการณ์การทำข่าวในสถานการณ์ความรุนแรงจึงจำเป็นต้องฝึกอบรมเตรียมพร้อม ขณะที่มีเดีย มอนิเตอร์ อยากเห็นสื่อไทยรายงานถึงสาเหตุของความขัดแย้งมากกว่าเสนอแค่สถานการณ์ความรุนแรงรายวัน

การอภิปรายหัวข้อ จริยธรรมสื่อฯ กับการใช้สื่อเพื่อการสื่อสารทางการเมือง ในเวทีเสวนา “ทิศทางสื่อไทยหลังเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง จะไปทางไหน” จัดโดยองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนไทย และต่างประเทศ โดยนายธาม เชื้อสถาปนศิริ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย โครงการมีเดีย มอนิเตอร์ กล่าวว่า ความขัดแย้งทางการเมืองช่วง 6 ปีที่ผ่านมา สื่อส่วนใหญ่เน้นเพียงการรายงานสถานการณ์ ขณะที่เคเบิ้ลทีวีบางส่วนเกิดขึ้นเพื่อรองรับความนิยมของกลุ่มการเมืองต่างๆ สังคมจึงไม่ได้รับข้อมูลที่รอบด้าน

นายจักร์กฤษ เพิ่มพูน กรรมการจริยธรรม สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ กล่าวว่า ในช่วงของความขัดแย้งสังคมผลักให้สื่อมีกลุ่ม มีสี ซึ่งสื่อต้องมีส่วนสำคัญที่ช่วยบรรเทาความขัดแย้ง โดยต้องยึดหลักจรรยาบรรณต่อวิชาชีพจึงจะสามารถสะท้อนความจริงได้ ขณะเดียวกัน ยังห่วงว่าสื่ออาจตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองในช่วงใกล้เลือกตั้งโดยไม่รู้ตัวผ่านการถ่ายทอดเสียงถ้อยคำที่เน้นอารมณ์ ความรู้สึกต่อฝ่ายตรงข้าม ดังนั้น องค์กรสื่อต้องมีวิจารณญาณ กลั่นกรองข้อมูลในการนำเสนอทุกครั้ง

ขณะที่การอภิปรายเรื่องทิศทางสื่อไทยหลังเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ผู้ร่วมอภิปรายเห็นตรงกันว่า นักข่าวไทยยังขาดประสบการณ์การทำข่าวในสถานการณ์ความรุนแรง จึงต้องมีการฝึกอบรมเตรียมความพร้อม เพื่อการรายงานข่าวอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความขัดแย้ง และเกิดความปลอดภัยมากขึ้น