นักวิชาการคาด
เหตุความผิดวินัยร้ายแรงและออกจากราชการ เพราะเกี่ยวข้องกับการทุจริตซื้อขายที่ดินอันไพลน์ ไม่เพียงทำให้ผลนั้นเกิดขึ้นกับนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ที่ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งทางการเมืองทุกตำแหน่ง แต่ยังเกี่ยวกันและส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย เพราะตำแหน่งที่ว่างลง โดยเฉพาะตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีรายชื่อผู้เหมาะสมถูกเสนอออกมาแล้ว
ตั้งแต่นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือแม้แต่อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อย่างนายโภคิน พลกุล และนายภูมิธรรม เวชชยชัย ผู้เชี่ยวชาญและชำนาญงานด้านการวางยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง รวมถึงชื่อของนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มทุนของพรรค ซึ่งยังไม่นับรวมกรณีของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ถูกเสนอให้ปรับโยก เพื่ออเปิดทางให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี
ส่วนรัฐมนตรีช่วยมีหนึ่งเดียว คือนายจตุพร พรหมพันธุ์ ซึ่งแม้จะระบุว่า กรณีข่าวที่เกิดขึ้นจะเป็นทุกขลาภ เพราะตกอยู่ในภาวะของการถูกวิพาษ์วิจารณ์ แต่โดยคุณสมบัตินั้นยืนยันว่าพร้อมทำหน้าที่
รศ.ยุทธพร อิสรชัย คณบดีรัฐศาสตร์ มสธ. วิเคราะห์บริบททางการเมืองที่เกี่ยวข้องแล้วเชื่อว่า นายกรัฐมนตรี จะตัดสินใจปรับ ครม.ในเร็วๆนี้ เพราะหวั่นเกรงการต่อรองทางการเมือง และน่าจะปรับไม่น้อยกว่า 10 ตำแหน่ง โดยมั่นใจว่าผู้ที่จะเข้าสู่ตำแหน่งใน ครม.ยิ่งลักษณ์ 3 คือบุคคลในกลุ่มอดีตสมาชิกบ้านเลขที่ 111 และกลุ่มการเมืองที่ใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
กรณีของนายจตุพร มีรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กอวยพรวันเกิดและย้ำให้เดินหน้าทำประโยชน์ให้กับประชาชน โดยละสถานะหนึ่งไว้ เสมือนจะเข้าใจได้ว่า นายจตุพร อาจได้รับตำแหน่งทางการเมือง ส่วนการปรับ ครม. มีรายงานว่าจะเกิดขึ้นต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งน่าจะเป็นหลังจากแถลงผลงาน 1 ปีต่อรัฐสภาและผ่านญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านไปก่อน