ปชป.เดินหน้าจัดกิจกรรมค้นหาความจริง
วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร และ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คือ 2 จุดเกิดเหตุความรุนแรงที่พรรคประชาธิปัตย์ ระบุผ่านกิจกรรมแรลลี่ว่าเงื่อนไขสำคัญเกิดจากปฏิบัติการของ"ชายชุดดำ"ที่แฝงอยู่ในการชุมนุมทางเมืองของกลุ่ม นปช. เมื่อปี 2553 เพื่อขับไล่รัฐบาลพรรคประชาะปัตย์ อันเป็นเหตุให้เกิดความสูญเสีย พร้อมอ้างอิงข้อมูลจากรายงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ และค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป.
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าวันพรุ่งนี้ (13 ต.ค.)จะเปิดเวทีปราศรัยผ่าความจริงด้วยการเปิดเผยชื่อผู้อยู่เบื้องหลัง"ชายชุดดำ" แต่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เชื่อว่า เป็นกิจกรรมที่หวังทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ก่อนเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเท่านั้น แต่โดยภาพรวมจนถึงขณะนี้รัฐบาลยังไม่ตอบรับที่จะสานต่อรายงานสรุปของ คอป. และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สรุปผลการศึกษาพร้อมข้อเสนอแนะ
แต่มุมมองของกองทัพ จากการเปิดเผยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ญชาการทหารบก จนถึงขณะนี้ยังไม่ยึดโยงกับข้อมูลของฝ่ายใด โดยทำได้เพียงการกล่าวย้ำขอความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่รัฐ หรือทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่ในอดีต ซึ่งต่างก็ห่วงใยความปลอดภัยของประชาชน
คอป. แถลงรายงานการค้นหาความจริงเหตุการณ์ ปี 2553 ไปเมื่อเดือนก่อน โดยสาระสำคัญชี้ว่า มีชายชุดดำจริงและมีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของชายชุดดำด้วยอาวุธสงครามถึง 9 คน และแม้ไม่พบหลักฐานว่าเป็นฝ่ายไหน แต่มีข้อมูลยืนยันว่า ชายชุดดำ มีความใกล้ชิดกับ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล และสนิทสนมกับแกนนำหรือการ์ด นปช.บางคน
ขณะที่ กสม.สรุปผลการตรวจสอบกรณีการชุมนุมของกลุ่มนปช. โดย 1 ใน 9 กรณีที่สรุประบุถึงชายชุดดำ ที่มีการติดอาวุธปะปนอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุม และชี้ว่าเป็นบทสะท้อนว่าการชุมนุมไม่ได้เป็นไปโดยสงบ และปราศจากอาวุธ
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการสร้างความปรองดองของสภาฯ สรุปผลศึกษาให้ทุกฝ่ายอภัยกัน พร้อมเสนอกฎหมายนิรโทษกรรม โดย ครม. ตอบรับและส่งมอบให้ ปคอป.ดำเนินการให้เป็นรูปธรรม รวมถึงการเปิดเวทีทำความเข้าใจกับประชาชน แต่ผลการศึกษาของ คอป.และ กสม.ที่นำเสนอไว้ ยังไม่มีการสานต่อ จะมีก็แต่เพียงเสียงคัดค้านจากแกนนำและแนวร่วม นปช. หรือแม้แต่รัฐมนตรีบางคนใน ครม.ยิ่งลักษณ์ 2