ตำรวจขยายผลเครือข่ายยาเสพติดพบเป็นระดับเอเย่นต์ใหญ่
การวิสามัญฆาตกรรมนายอัศวิน ภักดีเตล็บ ที่ต่อสู้การจับกุมของตำรวจ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา แม้จะยึดยาไอซ์ได้เพียง 2 กิโลกรัม และตำรวจระบุว่านายอัศวินเป็นเพียงผู้ค้ารายย่อย แต่ข้อมูลการติดต่อกับเอเยนต์ในการรับส่งยาเสพติด ก็ทำให้ตำรวจใช้ขยายผลจนตามไปจับ
นายนิรวิทย์ โสภณภูมิปัญญา ซึ่งเป็นชาวไทยภูเขาเผ่าลีซอ ได้ของกลางยาไอซ์อีก 26 กิโลกรัม และเฮโรอีน อีก 66 แท่ง กว่า 23 กิโลกรัม โดยนายนิรวิทย์ เช่าทาวน์โฮม 3 ชั้นอยู่ที่ย่านประเวศ
การสอบสวนนายนีรวิทย์รับว่าทำหน้าที่เฝ้า และกระจายยาเสพติด ให้ลูกค้าทั้งในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล โดยบอกเพียงว่ามีเครือข่ายใหญ่จากภาคเหนือเป็นผู้ดูแลในการจัดหายาเสพติดและขนส่งลำเลียง
แต่เมื่อตำรวจจับนายนีรวิทย์ และสอบสวนยังพบมีเครือข่ายอีก 1 คน คือนายวรพล เลาหมูา ซึ่งเช่าห้องพักย่านมหาวิทยาลัยรามคำแหง และเมื่อตำรวจเข้าไปตรวจค้นก็พบเฮโรอีนอีก จำนวน 27 แท่ง น้ำหนักรวมเกือบ 10 กิโลกรัม และยาบ้าจำนวน 570,000 เม็ด และยังเกี่ยวข้องกับนายกระเสริฐ พรเวชอำนวย ผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการที่ถูกจับเมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมาด้วย
มีการตั้งข้อสังเกตถึงจำนวนเฮโรอีนที่พบมากในปัจจุบัน พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นการนำเข้ามาเพื่อเตรียมจำหน่ายให้กับลูกค้าชาวต่างชาติ และอาจมีการจำหน่ายไปยังประเทศที่ 3 ด้วย
ตำรวจปราบปรามยาเสพติดยังเปิดเผยว่า ขณะนี้ยังมีเอเย่นต์คนสำคัญอีกคนที่ตำรวจยังอยู่ระหว่างติดตาม คือนายศิรรัฐฐาภูมิ วิริยะบุญชานนท์ ซึ่งถือว่าเป็นคนสำคัญที่สามารถติดต่อรับยาเสพติด และกระจายให้เครือข่ายได้ในจำนวนมาก ซึ่งหลังจากที่นายอัศวินถูกวิสามัญฆาตกรรม นายวรพล และนายนีรวิทย์ถูกจับทำให้นายศิรรัฐฐาภูมิ ระวังตัว และยังหลบหนีการจับกุม