ผู้ประท้วงในสเปนยังไม่สลายชุมนุม เหตุไม่พอใจนโยบายภาครัฐ
การประท้วงในกรุงซานติเอโก ประเทศชิลี มีประชาชนเข้าร่วมหลายหมื่นคนส่วนใหญ่ชุมนุมด้วยความสงบ โดยเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาลแต่มีผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งที่ก่อเหตุวุ่นวาย ทุบกระจกร้านค้า ทำลายทรัพย์สินที่อยู่สองฝั่งถนน และ ขว้างก้อนหินใส่ตำรวจ ทำให้ตำรวจต้องตอบโต้ด้วยการใช้แก๊สน้ำตา และ ฉีดน้ำแรงดันสูง
การชุมนุมในครั้งนี้นำโดยกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการสร้างเขื่อน 5 แห่งกั้นลำน้ำ 2 สายเพื่อใช้ผลิตกระแสไฟฟ้ามูลค่ากว่า 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 210,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา
กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมองว่าการก่อสร้างเขื่อนจะทำลายระบบนิเวศของแคว้นพาตาโกเนีย และทำลายทัศนียภาพอันสวยงามของธารน้ำแข็งและป่าไม้เขียวชอุ่ม ขณะที่รัฐบาล และ กลุ่มธุรกิจมองว่า ชิลีจำเป็นต้องเพิ่มกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อรับรองเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
ส่วนที่กรุงมาดริดของสเปน ผู้ประท้วงราว 25,000 คน ไม่ยอมสลายการชุมนุมตามคำสั่งของรัฐบาลที่ขอให้ยุติการประท้วงเวลาเที่ยงคืน เนื่องจากวันพรุ่งนี้จะมีการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ทั้งนี้การประท้วงในสเปนเข้าสู่วันที่ 6 สาเหตุมาจากประชาชน ไม่พอใจนโยบายลดรายจ่ายของภาครัฐรวมถึงอัตราการว่างงานที่พุ่งสูงถึงร้อยละ 45 นอกเหนือจากกรุงแมดริดแล้วการประท้วงยังกระจายไปตามเมืองใหญ่ ๆ ทั่วประเทศ