คณะกรรมการตรวจสอบทุจริตในการรับจำนำข้าวลงพื้นที่ตรวจคลังเก็บรักษาสินค้าข้าวนาปรัง จากโครงการรับจำนำของรัฐบาล และโรงสีข้าว ทั้งที่ อ.วังน้อย และ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้ (19 ต.ค.)ยังไม่พบการทุจริตหรือความผิดปกติ
พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การตรวจสอบจะให้ตำรวจแต่ละพื้นที่ตรวจสอบและเฝ้าระวังการเคลื่อนย้ายตามโกดังเก็บรักษาข้าวทั่วประเทศที่ร่วมโครงการ เช่นเดียวกับการตรวจสอบคลังเก็บข้าวเปลือกเอกชน ใน ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่ง อคส.เช่าพื้นที่เก็บข้าวที่ร่วมโครงการ ก็ไม่พบความผิดปกติเช่นกัน
นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ขอกำลังตำรวจดูแลโครงการรับจำนำข้าว 1 โรงพัก ต่อ 1 โรงสี ส่วนในจุดที่ไม่มีตำรวจดูแล เช่น สหกรณ์ใน อ.วังทอง และ อ.เนินมะปราง ให้เจ้าหน้าที่สหกรณ์เป็นผู้รับผิดชอบ
สำหรับคดีทุจริตจำนำข้าวปี 2554/2555 ที่พบการนำใบชั่งน้ำหนักข้าวปลอม สอดแทรกกับใบชั่งน้ำหนักจริง ใน จ.บุรีรัมย์ ทำให้รัฐเสียหาย 44 ล้านบาท ล่าสุดตำรวจพบผู้ร่วมขบวนการอีก 4 คน เป็นเกษตรกรที่มีความใกล้ชิดกับเจ้าของท่าข้าวธนพลพืชผล ใน อ.หนองกี่ ซึ่งดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกง และร่วมกันปลอมแปลงเอกสารไปก่อนหน้านี้ คาดว่าจะขออนุมัติหมายจับภายใน 2 สัปดาห์
ส่วนคดีทุจริตยักยอกข้าว อคส.ของโรงสีข้าวธัญญะรุ่งเรืองชัย จังหวัดนครราชสีมา กว่า 11,000 ตัน ยังอยู่ระหว่างการไต่สวนของศาล ทำให้ อคส.ยังไม่รับมอบข้าวจากโรงสี จนกว่าคดีจะสิ้นสุด
สำหรับการรับจำนำข้าวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายพื้นที่ ไม่สามารถเปิดจุดรับจำนำได้ โดยเฉพาะที่จังหวัดสุรินทร์ เนื่องจากอยู่ระหว่างการเสนอรายชื่อตัวแทนเกษตรกร เพื่อประจำตามจุดรับจำนำ ป้องกันปัญหาทุจริต