ศูนย์วิจัยฯ เผยอัตราการสูบบุหรี่ในช่วงอายุ 15-18 ปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.2
ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบเปิดเผยผลสำรวจอัตราการสูบบุหรี่ของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า อัตราการสูบบุหรี่ของประชากรไทยปี 2554 อยู่ที่ร้อยละ 21.36 แต่แนวโน้มการสูบบุหรี่ในเยาวชนมีอัตราเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะช่วงอายุ 15-18 ปี ที่ร้อยละ 9.2 และพบเยาวชนเริ่มสูบบุหรี่อายุต่ำสุดเพียง 6 ขวบ สาเหตุมาจากการเข้าถึงบุหรี่ได้ง่าย
ขณะที่ผลสำรวจพฤติกรรมการบริโภคยาสูบของเยาวชนอายุต่ำกว่า18 ปี ระดับมัธยมศึกษา ของคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต พบเยาวชนร้อยละ 56.1 ระบุว่า มีรุ่นพี่รุ่นน้องหรือเพื่อนในโรงเรียนนำบุหรี่มาแบ่งขายเป็นมวนๆ รวมทั้งหาซื้อบุหรี่ได้จากร้านขายของชำ บริเวณโรงเรียนและบ้าน รวมถึงห้างสรรพสินค้า ที่พบการแบ่งขายบุหรี่ชูรสและบุหรี่กานพลู โดยกลุ่มผู้ขายจะมีอายุต่ำกว่า 18 ปี เพื่อให้เป็นกลุ่มวัยเดียวกันกับกลุ่มเป้าหมาย จึงควรผลักดันร่างกฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว นอกจากนี้กระทรวงศึกษาธิการควรออกมาตรการที่เข้มงวดให้โรงเรียนกวดขันดูแลนักเรียนกลุ่มเสี่ยง และขอความร่วมมือร้านค้ารอบๆสถานศึกษาเพื่อป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ของเยาวชน
สำหรับร่างกฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่นี้ได้ผ่านการทำประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นทุกภูมิภาคเสร็จแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปปรับปรุงร่างให้มีความสมบูรณ์ ประเด็นสำคัญอยู่ที่การห้ามขายบุหรี่ให้กับเด็กจากเดิมอายุต่ำกว่า 18ปี เพิ่มเป็นอายุ 20ปี ห้ามเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18ปี ขายบุหรี่ หากฝ่าฝืนจะต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 0,000บาท รวมถึงการห้ามวิธีการเข้าถึงบุหรี่ของเยาวชนเช่น การขายบุหรี่ทางอินเทอรเน็ต ห้ามแบ่งขายบุหรี่เป็นมวน ห้ามขายผลิตภัณฑ์ยาสูบในสถานศึกษาโดนคาดว่าภายในเดือนธันวาคมนี้ จะสามารถสรุปนำร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีได้