ครม.สัญจร เกาะสมุย เตรียมเห็นชอบโครงการกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท

การเมือง
22 ต.ค. 55
07:41
155
Logo Thai PBS
ครม.สัญจร เกาะสมุย เตรียมเห็นชอบโครงการกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท

ครม.สัญจร เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี วันนี้ (23 ต.ค.) เตรียมให้ความเห็นชอบโครงการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการพัฒนากลุ่มภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย 4 จังหวัด 4 เรื่อง 14 ประเด็น รวมวงเงิน 22,426 ล้านบาท โดยระหว่างเป็นประธานการประชุม ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ในภาคใต้

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ หรือ ครม.สัญจร ที่เกาะสมุย ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างรัดกุม โดยก่อนเริ่มวาระการพิจารณา นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ และระบุว่าได้สั่งการให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ดูแลอย่างใกล้ชิดในวันพรุ่งนี้ (23 ต.ค.)

สำหรับวาระที่จะขอความเห็นชอบเพื่อส่งเสริมการพัฒนากลุ่มภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย 4 จังหวัด คือจังหวัดชุมพร, จังหวัดนครศรีธรรมราช, จังหวัดพัทลุง และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ใน 4 เรื่อง 14 ประเด็น วงเงินรวม 22,426 ล้านบาท ประกอบด้วยการส่งเสริมการค้าการลงทุน 3 เรื่อง ได้แก่ การขับเคลื่อนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพืชเศรษฐกิจจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย การเร่งรัดโครงการพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าภาคใต้-ทุ่งสงเป็นระบบราง การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เร่งรัดแผนบริหารจัดการน้ำบูรณาการแม่น้ำตรัง, ลุ่มน้ำตาปี, แม่น้ำชุมพร และบริหารจัดการทรัพยากรน้ำดี และน้ำดิบของเกาะสมุย ตลอดจนการเสนอของบประมาณโครงการต่างๆ ในแต่ละกระทรวง

กระทรวงวัฒนธรรม จะขอความเห็นชอบให้ข้าราชการทุกประเภท พนักงานราชการ รวมถึงลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว หน่วยงานของรัฐ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ ลาเข้าร่วมอุปสมบท ในโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวาคม 2555 12 สิงหาคม และ28 กรกฎาคม 2555 เป็นระยะเวลา 15 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลา และได้รับเงินเดือนตามปกติ

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสนอขออนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานธนานุเคราะห์ เพื่อเปลี่ยนสถานภาพเป็นนิติบุคคล กระทรวงสาธารณสุข ขอความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติโรคติดต่อ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอความเห็นชอบ การส่งเสริมและสนับสนุนให้สหกรณ์เป็นวาระแห่งชาติ

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ขอความเห็นชอบแผนประชากรในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อให้ประชากรไทยทุกช่วงวัย มีอนามัยการเจริญพันธุ์ที่เหมาะสม และมีศักยภาพเพิ่มขึ้น

ส่วนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เสนอร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก ที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธ์ทางการแพทย์ ซึ่งกำหนดขอบข่ายอำนาจศาล และกรณีการผสมเทียม ต้องกระทำต่อหญิงที่มีสามีโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง