จีนโต้การประชันวิสัยทัศน์ ปธน.สหรัฐฯ วอนมองการเติบโตของจีนอย่างมีเหตุผล
ผลการสำรวจของสถานีโทรทัศน์ "ซีบีเอส" ให้โอบาม่าจากพรรคเดโมแครตมีคะแนนนำ โดยได้คะแนนร้อยละ 53 ส่วนนายมิตต์ รอมนี่ย์จากพรรครีพับลิกัน ได้ร้อยละ 23 และที่เหลือร้อยละ 24 เห็นว่าทั้งคู่ทำได้ดีพอๆกัน ในขณะที่ผลการสำรวจของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ให้โอบาม่าเป็นฝ่ายชนะ โดยได้คะแนนร้อยละ 48 รอมนี่ย์ได้ร้อยละ 40
ประเด็นสำคัญของการประชันวิสัยทัศน์ในครั้งนี้อยู่ที่เรื่องนโยบายด้านต่างประเทศ ซึ่งเน้นไปที่สถานการณ์ในตะวันออกกลาง รอมนี่ย์บอกว่าการที่เอกอัครราชทูตและเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯเสียชีวิตจากเหตุการณ์โจมตีสถานกงสุลในเมืองเบงกาซีของลิเบีย ปรากฏการณ์อาหรับสปริง การขยายฐานอำนาจของจีน และโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน ที่รอมนี่ย์บอกว่ามีความก้าวหน้าไปมาก ล้วนแต่เป็นผลพวงจากนโยบายต่างประเทศที่อ่อนแอของรัฐบาลโอบาม่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แต่ในขณะเดียวกันรอมนี่ย์ได้กล่าวชื่นชมผลงานของโอบาม่าในการสังหารอุซามะห์ บินลาเดน แกนนำกลุ่มอัลกออิดะห์ที่กบดานอยู่ในปากีสถาน รวมถึงแผนการถอนทหารอเมริกันออกจากอัฟกานิสถานภายในปี 2557
แม้ว่าประเด็นหลักจะอยู่ที่เรื่องนโยบายต่างประเทศ แต่ผู้สมัครทั้งสองคนต่างพยายามโยงเข้าประเด็นด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นประเด็นที่ชาวอเมริกันให้ความสนใจ ทั้งคู่ได้กล่าวว่าจะเพิ่มแรงกดดันทางการค้าต่อจีน นายรอมนี่ย์ประกาศว่าจะกดดันรัฐบาลจีนให้หนักขึ้นในด้านการค้าและอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน และบอกว่าที่ผ่านมาจีนแย่งงานของชาวอเมริกัน ขโมยทรัพย์สินทางปัญญา สิทธิบัตร การออกแบบ เทคโนโลยี แฮกคอมพิวเตอร์และยังปลอมสินค้าของสหรัฐฯอีกด้วย ในขณะที่โอบาม่าบอกว่าจีนเป็นทั้งคู่แข่งและพันธมิตรที่มีศักยภาพ แต่จีนต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบ
ต่อมาโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนได้ออกแถลงการณ์ เรียกร้องผู้นำสหรัฐฯรวมถึงรอมนี่ย์ มองการเติบโตของจีนอย่างมีเหตุมีผลและตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง เพราะความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐบาลจีนกับสหรัฐฯ ถือเป็นผลประโยชน์ต่อทั้ง 2 ประเทศ รวมถึงประชาชนของทั้ง 2 ฝ่าย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใดควรจะเสริมสร้างความร่วมมือและความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน