ชาวสงขลากังวลหลังพบ 
บ่อเก็บสารกัมมันตรังสีจำนวน 11 บ่อ ซึ่งจะใช้เก็บสารกัมมันตรังสี 77 ชนิด ภายในบริษัทชลัมเบอร์เจอร์ โอเวอร์ซีส์ เอสเอ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนศรีสุดา กลางตัวเมืองสงขลา ไม่สามารถเดินหน้าก่อสร้างต่อไปได้ หลังถูกเทศบาลนครสงขลา สั่งระงับก่อสร้างเพราะเห็นว่าการก่อสร้างผิดแบบที่ขออนุญาต และนำบ่อเก็บสารกัมมันตรังสีที่จะก่อสร้างขึ้นใหม่แทนบ่อเดิมจำนวน 3 บ่อ ไปอยู่ใกล้ท่อระบายน้ำและบ้านเรือนของประชาชน แต่กลับตั้งอยู่ห่างอาคารสำนักงานของบริษัท หลายสิบเมตร
นายจรงค์ มุสิกรักษ์ หัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคารและผังเมือง เทศบาลนครสงขลา กล่าวว่าบ่อเก็บสารดังกล่าวอยู่ห่างจากสำนักงานของบริษัทเกือบ 50 เมตร แต่อยู่ใกล้บ้านพักอาศัยของประชาชนประมาณ 10 เมตร และใกล้กับถนนสาธารณะ ชาวบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียงทราบเรื่อง จึงแจ้งให้เทศบาลทราบ
บริษัทชลัมเบอร์เจอร์ โอเวอร์ซีส์ เอสเอ จำกัด ดำเนินกิจการสำรวจขุดเจาะน้ำมันกลางทะเลอ่าวไทย โดยนำสารกัมมันตรังสีไปติดตั้งกับหัวขุดเจาะน้ำมัน ก่อนแผ่รังสีเพื่อหาค่าความหนาแน่นชั้นหินและแหล่งก๊าซธรรมชาติกลางทะเล ซึ่งสารกัมมันตรังสีที่ใช้ในการสำรวจขุดเจาะทั้งหมด จะถูกนำมาเก็บไว้ในบ่อเก็บกัมมันตรังสีจำนวน 3 บ่อ แต่ตลอดระยะเวลาเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา ประชาชนกลับไม่เคยได้รับการชี้แจงจากบริษัทและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเลยว่าบริษัทแห่งนี้เก็บสารกัมมันตรังสีไว้กลางชุมชน
"บริษัทไม่เคยชี้แจง และวันที่ประชุมกัน ชาวบ้านได้ถามว่าสารดังกล่าวคืออะไร แต่ทางบริษัทบ่ายเบี่ยง ไม่ตอบคำถามโดยละเอียด ชาวบ้านจึงไม่ทราบว่าสารตัวใดบ้างที่เป็นสารอันตรายจริงๆ" นายครรชิต นนทสุวรรณ ประธานชุมชนศรีสุดา เขตเทศบาลนครสงขลา กล่าว
"สิ่งที่ชาวบ้านกังวลคือ สารรั่วไหล ทำให้ได้รับผลกระทบ เพราะชาวบ้านไม่ทราบเลยว่าสารจะมีการรั่วไหลหรือไม่ แต่หากเกิดเหตุชาวบ้านจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบ" นายศุภโชค เสียงดัง สมาชิกชุมชนศรีสุดา เขตเทศบาลนครสงขลา กล่าว
ตลอดแนวกำแพงรั้วบริษัทชลัมเบอร์เจอร์ โอเวอร์ซีส์ เอสเอ จำกัด นอกจากไม่มีป้ายชื่อบริษัทแล้ว ป้ายสัญลักษณ์รังสีเพื่อเป็นการแจ้งเตือนให้ผู้คนได้เฝ้าระวังในการเข้าใกล้สถานที่เก็บสารกัมมันตรังสี ก็ไม่ได้ถูกติดตั้งแต่อย่างใด ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์ระบุว่าตามข้อบังคับของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ ไอเออีเอ ผู้ครอบครองสารกัมมันตรังสีทุกรายต้องติดเครื่องหมายแสดงพื้นที่ซึ่งมีรังสีอย่างเด่นชัด เพื่อให้ประชาชนได้เฝ้าระวังขณะเข้าใกล้
นายธวัช ชิตตระการ ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์ ม.วิทยาลัยสงขลานครินทร์ ระบุว่า ทางบริษัทจะต้องติดป้ายเตือนบริเวณรั้ว โดยต้องระบุความแรงรังสีเป็นโดสต่อชั่วโมงหรือต่อวันก็ตามแต่ ซึ่งถือเป็นมาตรการขั้นพื้นฐานที่ต้องทำ
บริษัทชลัมเบอร์เจอร์ โอเวอร์ซีส์ เอสเอ จำกัด ตั้งอยู่กลางชุมชนศรีสุดา ในเขตเทศบาลนครสงขลา ซึ่งเป็นชุมชนหนาแน่น พื้นที่โดยรอบเป็นที่ตั้งโรงเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาอย่างน้อย 5 แห่ง รวมทั้งยังมีโรงแรมที่พัก รวมถึงสถานที่ราชการซึ่งมีประชาชนมาติดต่อหนาแน่น อย่างสำนักงานเทศบาลนครสงขลาและศาลากลางจังหวัด
ด้านนายพิรศักดิ์ กมลสุโกศล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทชลัมเบอร์เจอร์ โอเวอร์ซีส์ เอสเอ จำกัด ระบุว่าการครองครองและการใช้สารกัมมันตรังสี ดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย และเป็นไปตามมาตรฐานสากล ส่วนที่ชุมชนกังวลเรื่องความปลอดภัย ทางบริษัทก็มีแผนที่จะย้ายสถานที่จัดเก็บสารกัมมันตรังสีออกไปอยู่นอกชุมชนภายในระยะเวลา 1 ปี