ดิสนีย์เตรียมสร้าง Star Wars ภาค 7 กำหนดฉายปี 2015 หลังทุ่ม 4,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐซื้อลูคัสฟิล์ม
หลังบทสรุปใน Return of the Jedi ที่เหล่าพันธมิตรนำสมดุลแห่งพลังกลับคืนมาอีกครั้งในไตรภาคแรกของ Star Wars จนถึงการย้อนเล่าเรื่องที่ตัวเอกอนาคินแปรพักตร์ไปสู่ด้านมืดของพลัง นำไปสู่การกำเนิดของดาร์ธเวเดอร์ วายร้ายที่โด่งดังที่สุดในโลกภาพยนตร์ ในไตรภาคหลัง Revenge of the Sith แฟนหนังอาจคิดว่าตำนานมหากาพย์สงครามอวกาศ Star Wars ได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ภาพยนตร์ซีรีส์ที่ทำเงินทั่วโลกกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์นี้กำลังจะกลับมาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มอีกครั้ง หลัง Walt Disney Co. ได้ทุ่มเงินกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ซื้อกิจการของ Lucasfilm บริษัทสร้างภาพยนตร์ของ จอร์จ ลูคัส ผู้ให้กำเนิด Star Wars
แต่เดิมลูคัสมีแผนที่จะสร้าง Star Wars ออกมาถึง 9 หรือ 12 ภาค โดย ดอล พอลล็อก ผู้ประพันธ์หนังสือชีวประวัติของลูคัสเมื่อยุค 80 เคยมีโอกาสได้อ่านเรื่องย่อทั้ง 12 ภาค และยอมรับว่าภาค 7-9 เป็นตอนที่เขาคิดว่าตื่นเต้นและอยากให้สร้างเป็นภาพยนตร์ที่สุด โดยเนื้อเรื่องกล่าวถึงลุค สกายวอล์คเกอร์ ที่ก้าวขึ้นเป็นผู้นำอัศวินเจได เพื่อต่อสู้กับจักรวรรดิกาแล็กติก โดยมีตัวละครใหม่อย่าง มาร่า เจด มือสังหารของจักรวรรดิที่ต้องการล้างแค้นลุค แต่กลายมาเป็นคนรักของเขา
ทางดิสนีย์กล่าวว่าเนื้อหาที่จะอยู่ในไตรภาคใหม่จะสานต่อเรื่องราวของ 3 ตัวเอก ลุค สกายวอล์คเกอร์ ฮัน โซโล และเจ้าหญิงเลอาห์ โดยจะสร้างการผจญภัยใหม่ที่ไม่มีอยู่ในนิยายหรือหนังสือการ์ตูนที่สร้างมาก่อนหน้านี้ โดย แคนเธอรีน เคนเนดี ผู้อำนวยการสร้างคนดังจะรับหน้าที่ผู้อำนวยการสร้าง ส่วน จอร์จ ลูคัส จะลดบทบาทเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านความคิดสร้างสรรค์เท่านั้น ซึ่งลูคัสเผยว่าเป็นความปรารถนาของเขาในการเห็น Star Wars ถูกสานต่อไปยังผู้ชมรุ่นต่อๆไป
Star Wars ภาค 7 มีกำหนดฉายในปี 2015 ซึ่งทางดิสนีย์ตั้งใจจะสร้างภาคต่อออกมาทุกๆ 2 หรือ 3 ปี โดยพัฒนาตัวละครให้มีภาพยนตร์เป็นของตนเอง ซึ่งผู้ที่วงการจับตาว่าจะเข้ามากำกับมีทั้ง J.J. Abrams เจ้าของฉายาราชาละครไซไฟทางโทรทัศน์และผลงานจอเงินทั้ง Star Trek และ Super 8 Jon Favreau ผู้สร้างความสำเร็จให้ Iron Man กลายเป็นหนังดัง รวมถึง Christopher Nolan เจ้าของไตรภาคมนุษย์ค้างคาว ที่ตอนนี้ว่างเว้นจากกำกับภาพยนตร์ มาอำนวยการสร้างซูเปอร์แมนตอนใหม่
แม้จะสร้างมาตั้งแต่ปี 1977 แต่ความนิยมของ Star Wars ยังคงสร้างรายได้ให้ Lucasfilm ในปีนี้ไปแล้วกว่า 215 ล้านดอลลาร์จากค่าลิขสิทธิ์สินค้า ขณะที่ก่อนหน้านี้ดิสนีย์เคยประสบความสำเร็จในการซื้อกิจการ Pixar และ Marvel ซึ่งผลงานของทั้งสองค่ายสร้างรายได้ให้กับค่ายจำนวนมหาศาล