ทำเนียบขาวของสหรัฐฯระบุกำหนดการณ์คร่าวๆ ของการเยือนของนายบารัก โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯในครั้งนี้ว่าจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 17-20 พฤศจิกายนนี้ โดยเริ่มที่สหภาพพม่า โอบาม่าจะเข้าพบ พล.อ.เต็งเส่ง ประธานาธิบดี ที่กรุงเนปิดอว์ พบกับนางออง ซาน ซู จี ผู้นำฝ่ายค้าน และจะกล่าวสุนทรพจน์กับภาคประชาสังคม และมีกำหนดเดินทางไปนครย่างกุ้งด้วย
นายเจย์ คาร์นี่ย์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า โอบาม่าจะใช้โอกาสนี้กระตุ้นให้รัฐบาลพม่าเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่ระบอบประชาธิปไตย จากนั้นจะเดินทางมาประเทศไทย และเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งการเยือนของผู้นำสหรัฐฯในครั้งนี้ตรงกับวาระครบรอบ 180 ปีความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียตะวันออก
แถลงการณ์ของทำเนียบขาวระบุว่า นายโอบาม่าจะใช้โอกาสในการเยือนครั้งนี้หารือหลากหลายประเด็น ตั้งแต่เรื่องความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ การสร้างงานโดยผ่านการค้า และความเป็นพันธมิตร เรื่องพลังงาน ความร่วมมือด้านความมั่นคงเรื่องสิทธิมนุษยชน รวมถึงประเด็นต่างๆ ในภูมิภาค และความกังวลในระดับโลก คาดว่าโอบาม่าจะหารือแบบทวิภาคีกับผู้นำประเทศในภูมิภาคเอเชียด้วย ขณะที่ชาวพม่าในนครย่างกุ้งแสดงความยินดีกับข่าวการเดินทางเยือนของผู้นำสหรัฐฯ เพราะจะทำให้โลกหันมาสนใจพม่ามากขึ้น และน่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของพม่า
การเดินทางเยือนพม่าของโอบาม่า ทำให้เขากลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนแรกที่เยือนพม่า หลังจากเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว นางฮิลลารี่ คลินตัน เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯคนแรก ในรอบกว่า 50 ปีที่เดินทางเยือนพม่า ซึ่งเป็นการส่งสัญญานให้รัฐบาลพลเรือนของพม่ารู้ว่าสหรัฐฯพอใจกับการปฏิรูปประเทศไปในทิศทางที่ดีขึ้น การเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในครั้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นว่าสหรัฐฯให้ความสำคัญกับภูมิภาคนี้ หลังจากปล่อยให้จีนแผ่อิทธิพลเข้ามา และมีบทบาทสำคัญในหลายๆ ประเทศ