เลขาฯสมช.เชื่อ
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามในวันพรุ่งนี้ ( 24 พ.ย.) ว่า สิ่งที่กังวลที่สุดในการชุมนุมวันที่ 24 พ.ย.นี้ คือ ภัยแทรกซ้อนที่อาจจะมีการจุดชวนการชุมนุมหากเกิดเหตุรุนแรง เช่น มีคนได้รับบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต จากการกระทำของมือที่ 3 และด้านความปลอดภัยของบุคคลสำคัญ ทั้งนายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งเฉพาะส่วนตัว และ เป็นการจัดกำลัง
เลขาฯ สมช.ประเมินว่า การชุมนุมประมาณ 2 วัน 1 คืน ไม่ดุเดือดรุนแรง โดยแกนนำผู้ชุมนุมมีเป้าหมายเพื่อประกาศวัดกำลังการระดมพลของมวลชนและแนวร่วมของตัวเอง พร้อมกับยื่นเงื่อนไขต่อรัฐบาลเพื่อต่อยอดการชุมนุมครั้งต่อไปในช่วงเดือน ธ.ค.นี้
พล.ท.ภราดร ระบุอีกว่า น่าจับตาการชุมนุมในวันที่ 25 พ.ย.นี้ เนื่องจากมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในรัฐสภาอาจเกิดเหตุการณ์ที่สร้างแรงจูงใจทำให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ฝ่ายความมั่นคงยืดเวลาการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ออกไปจนถึงวันที่ 30 พ.ย.เพราะอาจมีการชุมนุมยืดเยื้อ
ขณะที่นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ระบุว่า บทบาท สมช.และตัวผู้นำองค์กรจากเดิมเคยเป็นองค์กรเป็นกลางทางการเมืองและสถาบันที่เป็นส่วนราชการประจำในฐานะกำหนดนโยบายด้านความมั่นคงของชาติ กำลังเอนเอียงทางการเมืองและรักษาความมั่นคงของรัฐบาลมากกว่าประเทศชาติและประชาชน
โดยบทบาท สมช.ต้องทำงานร่วมทั้งฝ่ายค้านและกรรมาธิการทั้งสภาและวุฒิสภา โดยมีหลักในการทำงาน คือ ต้องดูแลความมั่นคงชาติเป็นที่ตั้ง แต่ปัจจุบันเกิดความสับสนในการทำงานว่ากำลังแสดงบทบาทการเมืองมากกว่าแสดงบทบาทข้าราชการประจำ