เทศบาลนครอยุธยาเร่งขุดดินรอบกองขยะ หลังดีเอสไอตรวจพบปริมาณขยะเพิ่มเป็น 3.5 แสนตัน
เจ้าหน้าที่สำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมมลพิษ เข้าตรวจสอบกองขยะในบ่อขยะของเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากก่อนหน้านี้ชาวบ้านในพื้นที่ต.บ้านป้อม และต.ปากกราน ได้ร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากกองขยะ จำนวนกว่าสองแสนตัน ส่งผลให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณนี้ได้รับกลิ่นเหม็น อีกทั้่งน้ำจากกองขยะยังได้ไหลลงนาข้าวของชาวบ้านจำนวน 31 ไร่ ทำให้ได้รับความเสียหาย
พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ พิมพ์ทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคงกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ได้เข้าตรวจสอบ และพบว่า ปริมาณขยะได้เพิ่มขึ้นเป็น 3.5 แสนตัน พร้อมเตรียมหารือกับท้องถิ่นเพื่อจัดการแก้ปัญหาเรื่องนี้ เพราะในแต่ละวันนั้นจะมีรถบรรทุกขนขยะทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่มาทิ้งบริเวณนี้กว่า 100 คัน ขณะเดียวกันยังได้เก็บตัวอย่างน้ำและดินว่ามีสารพิษปนเปื้อนหรือไม่ ซึ่งต้องรอผลตรวจ 1 สัปดาห์ หากพบสารพิษและผู้รับผิดชอบบ่อขยะมีการปล่อยปละละเลยให้นำมาทิ้ง ก่อนจะดำเนินคดี
ด้านนายปรีชา ขันไพรศรี รองนายกเทศมนตรี เทศบาลนคร พระนครศรีอยุธยา ยอมรับว่า ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ดูแลและฉีดน้ำยาดับกลิ่นอย่างเต็มที่ แต่ฝนที่ตกลงมาก่อนหน้านี้ทำให้กลิ่นขยะกลับมาอีกครั้ง ล่าสุดได้นำรถจักรมาขุดดินบริเวณรอบบ่อขยะ เพื่อป้องกันน้ำจากกองขยะไหลลงสู่นาข้าวและแหล่งน้ำ ส่วนแนวทางแก้ไขระยะยาวเตรียมทำโรงไฟฟ้าเผาขยะแบบไร้มลพิษ แต่ต้องรบงบประมาณและทำประชาพิจารณ์ของชาวบ้านก่อน