ภท.-ปชป.ชี้การแก้รัฐธรรมนูญต้องยึดโยงประโยชน์ประชาชนส่วนรวม
นายพายัพ ปั้นเกตุ, พ.ต.อ.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ และนางดารุณี กฤตบุญญาลัย พร้อมแนวร่วมกลุ่ม นปช.ซึ่งบางส่วนเดินทางมาด้วยรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ รวมตัวกันบริเวณรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง เพื่อจัดกิจกรรมแรลลี่ไปตามสถานที่ต่างๆ อาทิเช่น รัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล ลานพระบรมรูปทรงม้า และที่ทำการพรรคการเมืองหลายพรรค โดย พ.ต.อ.ไวพจน์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันรัฐธรรมนูญ จึงได้รวมตัวกันเพื่อแสดงพลัง และออกแถลงการณ์สนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญ
ขณะที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันที่จะเดินหน้าติดตามตรวจสอบความเคลื่อนไหวของพรรคร่วมรัฐบาล และกลุ่มแนวร่วมว่าเข้าข่ายขัดกฎหมายหรือฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพื่อจะได้ระงับยับยั้ง และชี้ว่าการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ควรคำนึงถึงหลักใหญ่ 3 ประการ คือต้องโปร่งใส ไม่มีวาระซ่อนเร้น ควรฟังคำวินิจฉัย และความเห็นของศาลรัฐธรรมนูญมาก่อนหน้านี้ ที่สำคัญคือการดำเนินการเพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยส่วนรวม และให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง
นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ทางพรรคจะเรียกประชุมกำหนดท่าทีการแก้รัฐธรรมนูญในวันที่ 23 และ 24 ธันวาคม โดยมั่นใจว่าพรรคสนับสนุนที่จะให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ เพราะร่วมผลักดันมาตั้งแต่การเห็นชอบในเหตุผล และหลักการ พร้อมกับการลงมติในวาระที่ 2 แต่การลงมติในวาระที่ 3 กลับมีข้อทักท้วง รวมถึงมีข้อเสนอแนะของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการทำประชามติ ดังนั้นการดำเนินการต่อไป จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และยึดหลักประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ และเห็นว่าการแก้รัฐธรรมนูญไม่ควรเป็นประเด็นทำให้บ้านเมืองเสียหาย
ขณะที่มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนออกแถลงการณ์เรื่อง "ข้อเสนอกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550" ส่งถึงสื่อมวลชน โดยระบุสาระสำคัญว่าปมปัญหาของรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ไม่ได้มีเพียงที่มาอันสืบเนื่องจากการรัฐประหารเท่านั้น หากยังรวมไปถึงการกำหนดโครงสร้างของสถาบันทางการเมืองที่ไม่สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตย การกล่าวอ้างว่าหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วจะนำไปสู่ความขัดแย้งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปกป้องรัฐธรรมนูญฉบับที่ทั้งไม่ชอบธรรม และไม่สอดคล้องกับประชาธิปไตย