เกษตรกรสิทธิชุมชนฯ จ.กระบี่ไม่ยอมย้ายออกจากสวนปาล์ม วอนรบ.จัดสรรที่ดิน
นายยอง ปานสงค์ วัย 78 ปี ตัดสินทิ้งถิ่นฐานเดินทางจากอ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ไปก่อสร้างบ้านพักภายในสวนปาล์มหมดสัมปทานของห้างหุ่นส่วนจำกัดกระบี่รวมภัณฑ์ บริเวณบ้านคลองหวายเล็ก ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ รวมกับเพื่อนสมาชิกกว่า 500 ครอบครัวเมื่อ 8 เดือนที่ผ่านมาเพื่อเรียกร้องรัฐบาลเร่งจัดสรรที่ดินให้กับคนจน
หลังเพื่อนบ้านนำผืนนาที่เคยให้เช่ามานานกว่า 30 ปี เปลี่ยนไปปลูกปาล์มน้ำมันทดแทนจึงเกิดสภาวะว่างงาน
ชะตากรรมเช่นนี้ยังเกิดขึ้นกับนางถนอมศรี รอดผุด ชาวอ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราชที่ชักชวนสามี นำเงินสะสมจากการตระเวนรับจ้างที่มีอยู่ไปก่อสร้างบ้านหลังใหม่ระหว่างรอรัฐบาลจัดสรรที่ทำกินหลังที่ดินและบ้านเก่าหลังของนางถนอมศรีถูกธนาคารยึดเพราะนำไปค้ำประกันหนี้สินให้กับน้องสาว
โดยแกนนำกลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินรับปากกับนายบุญชอบ สุทธมนัสวงศ์ อธิบดีกรมป่าไม้จะเป็นคนกลางในการเจรจาให้ชาวบ้านย้ายออกจากพื้นที่เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งกับชาวบ้าน ต.คลองขนานแต่พบว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ ยืนยันจะอยู่ในพื้นที่เพราะหลายคนตกอยู่ในสภาพไม่มีที่ไป
นายประสาร ไมยะแกนนำเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกินชี้แจงว่าการรับปากกับทางจังหวัดและอธิบดีกรมป่าไม้จะช่วยเจรจาให้ชาวบ้านย้ายออกจากสวนปาล์มหมดสัมปทานของห้างหุ่นส่วนจำกัด กระบี่รวมภัณฑ์ ไม่ใช่เป็นการยอมแพ้แต่เป็นการถอยเพื่อตั้งหลักภายใต้เงื่อนไขเจ้าหน้าที่ป่าไม้ต้อง
ดำเนินการอย่างจริงจังด้วยการนำสวนปาล์มน้ำมันที่หมดสัมปทานทั้งหมดกลับมาเป็นของรัฐเฉพาะพื้นที่ในภาคใต้พบ
ว่ามีสวนปาล์มน้ำมันและสวนยางพาราที่หมดสัมปทานกับกรมป่าไม้มานานกว่า 10 ปี แต่ยังมีนายทุนเข้าไปใช้
ประโยชน์ไม่ต่ำกว่า 140,000 กระจายอยู่ในจ. กระบี่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และจ.ชุมพร