ในเวทีเสวนา "บทบาทของสื่อกับงานช่วยเหลือเด็กเร่ร่อน" ที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ,มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก และเครือข่ายองค์กรด้านเด็กเร่ร่อน จัดขึ้น โดยเครือข่ายทำงานด้านเด็กเร่ร่อน สะท้อนว่า หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหานี้ ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ ยังเข้าใจไม่ตรงกัน และสับสนต่อแนวทางปฏิบัติในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะเรื่องสถานะบุคคลที่ล่าช้า ส่งผลให้เด็กเร่ร่อนไม่ได้รับสิทธิ สวัสดิการ และการศึกษา
ขณะที่ ขวัญวงศ์ พิกุลทอง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรสงคราม ยอมรับว่า การแก้ปัญหาสถานะบุคคลมีความซับซ้อน เจ้าหน้าที่เข้าใจแนวปฏิบัติที่แตกต่างกัน ทั้งๆ ที่มีกฎหมายรองรับการทำงาน จึงเสนอให้แต่ละหน่วยงานอบรม ทำความเข้าใจเจ้าหน้าที่เพื่อให้การขับเคลื่อนงานทำได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอเรื่องงบประมาณเพื่อสนับสนุนการทำหน้าที่ของเครือข่าย องค์กรที่ทำงานด้านเด็กเร่ร่อน โดย นางทองพูล บัวศรี ครูข้างถนนจากมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก ต้องการให้ปรับแก้กฎระเบียบกองทุนคุ้มครองเด็ก ให้สามารถนำเงินส่วนนี้ไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายรายหัวเด็กเร่ร่อน ทั้งค่าพาหนะ ค่าอาหารกลางวัน และค่ารักษาพยาบาล เพราะปัจจุบันมูลนิธิแต่ละแห่งประสบปัญหาด้านงบประมาณอย่างมาก
สำหรับการสร้างแรงจูงใจให้กับครูข้างถนน ได้รับคำยืนยันจากนายชาญวิทย์ ทัพสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ว่า จะผลักดันข้อเสนอที่ต้องการให้บรรจุครูข้างถนน เข้าสู่ระบบครูการศึกษาตามอัธยาศัย หรือ ครู กศน. ด้วยการฝึกอบรมวิชาชีพครูเพิ่ม เพื่อนำไปสู่การออกใบประกอบวิชาชีพครู ซึ่งจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการคุรุสภาเพื่อพิจารณาต่อไป