ชุมชนเมืองนิวทาวน์ทำพิธีฝังศพเหยื่อ ที่ถูกกราดยิงในสหรัฐฯ
ชุมชนเมืองนิวทาวน์ปลดย้ายสิ่งประดับสำหรับเทศกาลคริสต์มาสออกไปแล้วแทนที่ด้วยสิ่งรำลึก และไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตในโศกนาฏกรรม ณ โรงเรียนประถมศึกษาแซนดี้ฮุค โดยล่าสุดมีการฝังศพเหยื่อกระสุน 2 รายแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทั้งคู่เป็นเด็ก ป.1 อายุ 6 ขวบ
นายอดัม ลานซ่า อายุ 20 ปี ยิงมารดาเสียชีวิตบนเตียงนอนที่บ้าน จากนั้นได้ขับรถยนต์ของมารดามายังโรงเรียนแซนดี้ฮุค พร้อมปืน 4 กระบอก โดยตำรวจระบุว่า การก่อเหตุที่โรงเรียนแซนดี้ฮุคทั้งหมดใช้ปืนเพียงกระบอกเดียว คือ ปืนยาว"บุชมาสเตอร์" ซึ่งปืนไรเฟิ่ลชนิดนี้สหรัฐฯ ผลิตออกมาใช้เมื่อสมัยสงครามเวียดนาม โดยมีอานุภาพร้ายแรงเท่ากับปืนเอ็ม-16
แม็กกาซีนของปืนบุชมาสเตอร์บรรจุกระสุนได้ 30 นัดและนายอดัมเตรียมมาก่อเหตุหลายแม็กกาซีน โดยเขาได้ยิงกระจกแล้วบุกเข้าไปภายในแล้วกราดยิง ทำให้นักเรียนชั้น ป.1 ซึ่งทั้งหมดอายุระหว่าง 6 ถึง 7 ขวบเสียชีวิต 20 คน นอกจากนี้ยังมีผู้ใหญ่เสียชีวิตไปพร้อมกันอีก 6 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้หญิง รวมถึงครูใหญ่ที่พยายามปกป้องลูกศิษย์ด้วย 2 มือเปล่า
ตำรวจระบุด้วยว่า ถ้ามีเวลามากกว่านี้ นายอดัมสามารถฆ่าคนได้หมดโรงเรียน เพราะพบว่า ยังเหลือกระสุนปืนอีกนับร้อยนัด โดยนายอดัมฆ่าตัวตายเมื่อได้ยินเสียงไซเรนรถตำรวจใกล้เข้ามา
โศกนาฏกรรมที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปทั้งสิ้น 28 คนครั้งนี้ ทำให้มีการถกเถียงหรือประท้วงเกี่ยวกับเรื่องปืนกันอย่างกว้างขวางในสหรัฐฯ แต่ไม่ใช่แค่เพียงจำกัดหรือเข้มงวดการครอบครองเท่านั้น เพราะนายลูอี้ โกเมิร์ท สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันจากรัฐเท็กซัส มีความเห็นว่า ถ้าครูใหญ่มีปืนเอ็ม-4 ซึ่งเป็นปืนยาวอานุภาพร้ายแรงอยู่ภายในลิ้นชักโต๊ะครู เธอคงสามารถหยิบขึ้นมาป้องกันชีวิตเหล่าลูกศิษย์ได้ทัน