นายชินโซะ อาเบะ กล่าวภายหลังรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่าเขาจะนำประสบการณ์จากการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในสมัยแรก ช่วงปี 2549-2550 รวมถึงข้อผิดพลาดมาสร้างรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ ก่อนหน้านี้เขาให้สัญญาว่าเมื่อพรรคแอลดีพีได้ขึ้นมาบริหารประเทศ เขาจะจัดทำงบประมาณพิเศษเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ส่วนข้อพิพาทกับจีนเรื่องการอ้างสิทธิ์ในทะเลจีนตะวันออก เขาจะไม่ยอมอ่อนข้อให้กับจีน แต่ขณะเดียวกันจะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับจีนไปพร้อมๆ กัน เนื่องจากจีนเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น
ด้านกระทรวงการต่างประเทศของจีนได้จัดการแถลงข่าวเรียกร้องให้นายอาเบะร่วมมือกับจีนฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับสู่ภาวะปกติ โดยใช้วิธีพบกันครึ่งทาง รัฐบาลจีนพร้อมทำงานร่วมกับญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ แต่ยังคงย้ำจุดยืนเดิมว่าเกาะเตียวหยู หรือเกาะเซ็นกากุในภาษาญี่ปุ่นเป็นดินแดนของจีน ซึ่งจีนต้องการแก้ปัญหานี้ด้วยการเจรจาต่อรอง ในขณะที่หนังสือพิมพ์ของรัฐบาลจีนได้เขียนบทบรรณาธิการตั้งความหวังว่าการรับตำแหน่งของนายอาเบะ จะเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากจากจีนและญี่ปุ่นถือเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 และอันดับ 3 ของโลก
แม้ว่าพรรคแอลดีพีจะเอาชนะพรรคประชาธิปไตยหรือ "ดีพีเจ" อย่างขาดลอย แต่นักวิเคราะห์บางคนมองว่าชัยชนะของพรรคแอลดีพีไม่ได้หมายความว่าชาวญี่ปุ่นสนับสนุนนโยบายของพรรคนี้ แต่น่าจะเป็นการลงโทษพรรคดีพีเจมากกว่า เนื่องจากพรรคนี้บริหารประเทศมา 3 ปีแต่ผลงานกลับไม่เป็นที่พอใจรวมถึงความบกพร่องในการรับมือกับวิกฤตแผ่นดินไหว และคลื่นสึนามิเมื่อปีที่แล้ว จึงทำให้พรรคดีพีเจซึ่งปกครองญี่ปุ่นมานานกว่า 50 ปี และเพิ่งสูญเสียตำแหน่งให้พรรคดีพีเจเมื่อ 3 ปีก่อนได้กลับมาบริหารประเทศอีกครั้ง