ปชป.ชี้สถานการณ์สู่ความขัดแย้ง
สถานการณ์การเมืองในปี 2556 พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทยเชื่อในทิศทางที่ต่างกัน โดยนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร เห็นว่าสถานการณ์การเมืองในปีหน้า มีแนวโน้มของการคลี่คลาย และเข้าใจกันมากขึ้น ซึ่งเชื่อมั่นว่าไม่มีประเด็นใดน่าห่วงว่าจะนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ โดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย และสภาผู้แทนราษฎรเลือกที่จะฟังเสียง และให้โอกาสประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมผ่านการทำประชามติแล้ว
นายสมศักดิ์ เสนอว่าการเดินหน้าพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปรองดองในสภาผู้แทนราษฎรควรยึดกระบวนการเดียวกันกับการแก้รัฐธรรมนูญ คือการทำประชามติ และการทำประชาเสวนา เพื่อสร้างความเข้าใจตรงกัน
แต่ในประเด็นเดียวกัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่าการแก้รัฐธรรมนูญและการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ปรองดองที่รัฐบาล และเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ฟังแต่ความจำนงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยไม่รับฟังข้อทักท้วงจากประชาชน จะนำพาสถานการณ์การเมือง และบ้านเมืองไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ได้ แม้จะไม่สามารถประเมินได้ว่าจะเข้าสู่ความรุนแรงหรือไม่ก็ตาม
นายสุเทพยังเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศอิสระภาพไร้การครอบงำจากบุคคลใด และวางเจตนาของการบริหารไว้ที่ประชาชน ไม่ใช่คนในครอบครัว เพื่อความสงบสุขของประเทศ และประชาชน และในขณะที่นายสุเทพประกาศเดินหน้ารณรงค์คัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ และยับยั้งการพิจารณากฎหมายปรองดอง แต่นายสมศักดิ์กลับบอกว่าให้ทุกฝ่ายลดทิฐิ เสียสละ และลืมอดีต เพื่อรักษาบรรยากาศของบ้านเมือง