เอกชนยกเลิก
แม้จะเป็นข่าวดีต้อนรับปีใหม่ แต่สำหรับเครือข่ายประชาชนในนครศรีธรรมราชที่คัดค้านโครงการนี้แล้ว พวกเค้าก็ยังไม่มั่นใจว่า บริษัทเอกชนจะยกเลิกโครงการจริง จึงยังคงติดตามข่าวสารและจัดกิจกรรมสร้างความรู้ความเข้าใจถึงผลกระทบของโครงการต่อสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เชื่อได้ยากว่าโครงการนี้จะยุติลงจริงในพื้นที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ก็มาจากความพยายามในช่วงหลายปีที่ผ่านมาของบริษัทเอกชน ในการทำมวลชน การลงทุนซื้อที่ดินจำนวนมาก รวมถึงการอนุมัติรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
กว่า 5 ปี ที่บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ได้ไปดำเนินการในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งจัดทำการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือที่เรียกว่าอีเอชไอเอ และสร้างภาพลักษณ์ของนักลงทุนระดับโลก ได้ยุติลงเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาค่ะ โดยผู้จัดการฝ่ายนโยบายด้านรัฐกิจและกิจการสัมพันธ์ของบริษัท แถลงข่าวตัดสินใจยุติดำเนินโครงการท่าเรือศูนย์สนับสนุนการผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทย ที่มีแผนจะสร้างในพื้นที่ อ.ท่าศาลา
โดยบริษัทให้เหตุผลในการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่ปี 2550 และเพิ่งผ่านความเห็นชอบเดือนกันยานปี 2555 ช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา งบประมาณการก่อสร้าง และเงินลงทุนต่างๆ ปรับเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ส่วนช่วงเวลาของการก่อสร้าง ที่ต้องกินเวลาถึง 5 ปี คงไม่ทันกับโครงการสนับสนุนการปฎิบัติงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าว ไทย ที่จะต้องเกิดขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า
การแถลงข่าวตัดสินใจยุติโครงการท่าเรือของเชฟรอน สร้างความกังวลให้กับนักลงทุน ที่ก่อนหน้านี้ เตรียมดำเนินแผนพัฒนาด้านอื่นๆในพื้นที่ ทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรม แต่ในอีกมุมหนึ่ง ก็สร้างความยินดีและแปลกใจให้กับภาคประชาสังคมที่คัดค้านเรื่องนี้มาโดยตลอด เพราะเรียกได้ว่า เชพรอน ลงทุนกับเรื่องนี้ไปไม่น้อย
ภาคประชาชนในนครศรีธรรมราช เชื่อว่า ความเข้มแข็งของภาคประชาชน ที่ต่อสู้อย่างมีรูปแบบและมีพลัง รวมถึงข้อมูลวิชาการโดยชุมชน ที่นำเสนอผ่านเวทีสาธารณะถึง 117 เวที มาตั้งแต่ปี 2552 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจชุมชน หรือความสมบูรณ์ของฐานทรัพยากร ทั้งการประมงและการท่องเที่ยว คือปัจจัยที่ทำให้บริษัทเอกชนระดับโลก ต้องยุติโครงการ
แม้จะมีการออกมาแถลงข่าวอย่างชัดเจนจากผู้จัดการฝ่ายนโยบายด้านรัฐกิจและกิจการสัมพันธ์ แต่ภาคประชาสังคมในนครศรีธรรมราชก็บอกว่า ต้องรอเอกสารอย่างเป็นทางการ ของสำนักงานนโยบายและแผน ที่ยืนยันการยกเลิกการสร้างท่าเรือเชฟรอนฯก่อน กระบวนการทั้งหมด จึงถือว่าสิ้นสุด เพราะหากไม่ยกเลิกอีไอเอ เจ้าของโครงการก็ยังสามารถหยิบขึ้นมาปัดฝุ่นเมื่อไหร่ก็ได้
เป็นข่าวดีของภาคประชาชนในนครศรีธรรมราช แต่ดูเหมือนจะไปเพิ่มความกังวลให้กับภาคประชาชนในอีกหลายจังหวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความเหมาะสมในเชิงการค้าการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือน้ำลึก หรือนิคมอุตสาหกรรม