ชาวปราจีนฯหวั่นวิตกหลังตรวจพบสารปรอทปนเปื้อนใกล้สวนอุตฯ 304
ถ้อยคำแสดงความไม่แน่ใจต่อความปลอดภัยของชาวจังหวัดปราจีนบุรีที่อาศัยในเขตลุ่มน้ำบางปะกง ปรากฎขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังรับทราบผลการศึกษาของมูลนิธิบูรณะนิเวศ ที่พบสารปรอทตกค้างในปลาช่อนและในมนุษย์เกินมาตรฐาน จากการสำรวจที่คลองชลองแวง ตำบลท่าตูม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี พื้นที่ต้นน้ำของลุ่มน้ำบางปะกง ใกล้กับพื้นที่สวนอุตสาหกรรม 304 ซึ่งมีการใช้ถ่านหินผลิตกระแสไฟฟ้า
ผลการศึกษาที่ถูกส่งไปตรวจสอบยังสถาบันวิจัยความหลากหลายทางชีวภาพ หรือ บีอาร์ไอ สหรัฐอเมริกา ระบุชัดเจนว่า ตัวอย่างเส้นผม 20 ตัวอย่างที่เก็บจากชาวตำบลท่าตูม มีค่าปรอทตกค้างเกินกว่าค่าปริมาณอ้างอิง และตัวอย่างปลาช่อน 20 ตัวอย่าง ร้อยละ 85 มีค่าสารปรอทเกินปริมาณอ้างอิง และตัวอย่างทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์มีค่าปรอทเกินกว่ามาตรฐานที่ยอมรับได้ของอาหารไทย ตามประกาศของกระทรวงสาธารณะสุข
สมบุญ พัชรไพบูลย์ ผญบ.หมู่ 3 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกตรวจพบสารปรอทในร่างกายด้วย ยอมรับว่า เขาเองเป็นหนึ่งในกรรมการไตรภาคีที่ทำหน้าที่ร่วมตรวจสอบมลพิษกับโรงงาน และหน่วยงานรัฐ มากว่า 6-7 ปี แต่ไม่เคยได้รับข้อมูลเช่นนี้
พื้นที่ลุ่มน้ำบางปะกง จากจังหวัดปราจีนบุรี ต่อไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรา มีโรงงานอุตสาหกรรมมาก และคนในพื้นที่บอกว่า หลายแห่งใช้พลังงานจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน ทุกพื้นที่จึงมีกลไกตั้งคณะกรรมการไตรภาคี แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีรายงานสารพิษจากโลหะหนักตกค้างเช่นครั้งนี้
สถาบันวิจัยความหลากหลายทางชีวภาพ หรือ บีอาร์ไอ ซึ่งเป็นผู้รับรองผลการศึกษานี้ เป็นองค์กรพันธมิตรกับเครือข่ายระหว่างประเทศว่าด้วยการกำจัดสารพิษตกค้างยาวนานในสิ่งแวดล้อม เพื่อตรวจหาสารพิษโละหนักที่ตกค้างในพื้นที่อุตสาหกรรมทั่วโลกรวมทั้งโครงการนี้ ซึ่งทำพร้อมกับอีก 29 ประเทศทั่วโลก เมื่อเข้าไปตรวจสอบที่หน้าเวบไชต์ของบีอาร์ไอ มีการอ้างอิงถึงหน่วยงานของรัฐทั้งในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และประเทศอื่นๆ เป็นผู้ให้การสนับสนุน