เรือนจำบางขวาง กับโครงการเรือนจำสีขาว
เขายอมรับว่า การเข้าร่วมโครงการเรือนจำสีขาว ที่จะเป็นผู้ทำหน้าที่ช่วยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมดูแลผู้ต้องขัง พร้อมแจ้งเบาะแสความผิดปกติ กรณีผู้ต้องขังบางคนอาจจะเข้ายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงสูงเมื่อต้องระมัดระวังตัวกับผู้ต้องขังด้วยกันเอง แต่นั่นก็หมายถึงว่า พวกเขาจะได้รับสิทธิ์พิเศษที่จะสามารถได้พบญาติอย่างใกล้ชิดปีละ 1-2 ครั้ง
เรือนจำกลางบางขวางที่มีผู้ต้องขังสมัครใจเข้าร่วมโครงการแล้วประมาณ 600 คน จากจำนวนทั้งหมด 4,000 คน โดยมีหลักเกณฑ์คือ ผู้ต้องขังต้องอยู่ระหว่างพิจารณาคดี หรือคดีสิ้นสุดแล้ว ไม่อยู่ระหว่างถูกลงโทษทางวินัย และไม่ถูกควบคุมตัวอยู่ในแดนควบคุมพิเศษหรือแดนขังเดี่ยว รวมถึงต้องได้รับการตรวจหาสารเสพติดอย่างละเอียดด้วย ซึ่งเรือนจำแห่งนี้ มีผู้ต้องขังคดีเด็ดขาดที่มีโทษตั้งแต่ 20 ปี ขึ้นไป และผู้ต้องขังโทษประหาร เข้าร่วมโครงการมากที่สุด
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ยอมรับว่า แม้ทางเรือนจำกลางบางขวางจะมีความเข้มงวดในการตรวจค้นเพื่อให้เป็นเรือนจำปลอดยาเสพติด แต่ยังพบว่า บ่อยครั้งเมื่อมีการจับยาเสพติดได้มักจะมีการให้การว่า ได้มีการสั่งซื้อจากเรือนจำกลางบางขวาง รวมถึงยังมีความพยายามลักลอบนำเข้าสิ่งของต้องห้ามอย่างต่อเนื่อง
สถิติจากการตรวจค้นเรือนจำทั่วประเทศนับตั้งแต่ปี 2554 ถึงปี 2555 สามารถตรวจยึดสิ่งผิดกฎหมายในเรือนจำคือ ยาบ้าเกือบ 80,000 เม็ด, ยาไอซ์ 10 กิโลกรัม, กัญชาเกือบ 3 กิโลกรัม โทรศัพท์มือถือกว่า 10,000 เครื่อง และ ซิมโทรศัพท์มือถือกว่า 6,000 ชิ้น นอกจากนี้ยังมีการลงโทษเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและการลักลอบนำโทรศัพท์มือถือเข้าเรือนจำ รวม 50 คน
ปัจจุบันมีเรือนจำที่ได้รับการยอมรับและประกาศว่าเป็นเรือนจำสีขาวแล้ว 66 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นเรือนจำขนาดเล็กและกลางเท่านั้น ขณะที่เรือนจำความมั่นคงสูงยังคงไม่มีที่ใดประกาศได้ เพราะยังคงติดปัญหาเรื่องการควบคุมดูแล และการบริหารจัดการ