พล.ท. ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้กล่าวถึงกรณีที่ชาวโรฮิงญากว่า 800 คนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ข้อสรุปว่ามีมาตรการอยู่ โดยยึดพ.ร.บ. ปี 2522 แต่จะทำการให้สอดคล้องกับกฎหมายสหประชาชาติ โดยจะยึดหลักมนุษยธรรมในการดำเนินการเพราะในครั้งนี้มีเด็กและสตรีจำนวนมาก โดยเป็นเด็ก 160 คน แบ่งเป็น ชาย 110 คน หญิง 50 คน จึงต้องดำเนินการให้รัดกุมและถูกต้องเพราะจะเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ. คุ้มครองเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
พล.ท ภราดร ยืนยัน ในขณะนี้ยังถือไม่ว่าเป็นการค้ามนุษย์ แต่เป็นการเข้าเมืองผิดกฎหมาย เพราะกำลังอยู่ในขั้นตรวจสอบ และจะใช้มาตรการสกัดกั้นเป็นหลักเพื่อเป็นการแก้ปัญหาให้ตรงจุด แต่สำหรับกลุ่มคนที่เล็ดลอดเข้ามาได้ จะใช้วิธีการผลักดันโดยการสื่อสารกับประเทศที่ 3 เพราะการที่ชาวโรฮิงญาส่วนมหญ่ลักลอบเข้าประเทศไทยเพราะใช้เป็นทางผ่าน จุดหมายอยู่ที่ประเทศที่ 3 คือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย จึงต้องทำการประสานงานกับประเทสเพื่อนบ้านในการแก้ไขปัญหา
และในกรณีที่ทาง UN หรือ องค์กรสหประชาชาติ ได้จับตาประเทศไทยอีกครั้งหลักเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทางพล.ท. ภราดร ระบุถึงกรณีนี้ว่า ตอนนี้ตามกระบวนการแล้วยังไม่ใช่การค้ามนุษย์ เป็นเพียงการเข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งอยู่ในช่วงพิสูจน์หลักฐานต่างๆ ว่าจะเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่
ล่าสุด พล.ท. ภราดร กล่าวเพิ่มเติมว่า เตรียมออกหมายเรียกนักการเมืองท้องถิ่นมาให้ปากคำ กรณีเกี่ยวข้องกับการกักขังหน่วงชาวโรฮิงญาเพื่อรอส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน