คาดผลศึกษาท่อส่งน้ำมันเชื่อม
โดยแผนฉบับนี้ประกอบด้วยแผนโครงสร้างราคาพลังงาน แผนพัฒนาพลังงานทดแทน ซึ่งรวมโครงการส่งเสริมปลูกหญ้าเลี้ยงช้างเพื่อผลิตก๊าซธรรมชาติในรถยนต์และโรงไฟฟ้า รวมทั้งโครงการท่อส่งและคลังน้ำมันเชื่อมทะเลอันดามันและอ่าวไทย หรือ เอเนอยี่ บริดจ์
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ. เปิดเผยว่า เอเนอยี่ บริดจ์ จะเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันใหม่ในภูมิภาค นอกเหนือจากช่องแคบสิงค์โปร์ที่รองรับการขนส่งน้ำมันได้วันละ 17 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่อีก 20 ปีความต้องการน้ำมันของไทยและภูมิภาคจะเพิ่มเป็น 25 ล้านบาร์เรลต่อวัน
เส้นทางขนส่งน้ำมันที่เป็นไปได้มี 2 ใน 3 เส้นทาง ได้แก่ ท่อส่งน้ำมันจากอำเภอเขาหลัก จังหวัดพังงา สู่ อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ระยะทางรวม 250 กิโลเมตร โดย 2 ฝั่งจะมีคลังน้ำมันขนาด 10 ล้านบาร์เรลซึ่งจะทำให้มีน้ำมันสำรองในประเทศ 90 วันด้วย
ส่วนเส้นที่ 2 คือท่อส่งน้ำมันจากท่าเรือน้ำลึกทวายของพม่า สู่อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี และ เดินท่อในทะเลขึ้นฝั่งที่อำเภอมาบตาพุด จังหวัดชลบุรี ความยาวท่อตามระยะทางรวม 500 กิโลเมตร โดยภายใน 1-2 เดือน คาดว่า ผลการศึกษาแล้วเสร็จ และสามารถเสนอให้นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานพิจารณา ส่วนวิธีการลงทุนมีหลายรูปแบบ เช่น รัฐบาลไทยลงทุนเองทั้งหมด หรือ ร่วมทุนกับนักลงทุนอื่นๆ และผู้ค้าน้ำมันร่วมกันลงทุน
นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน เสนอให้สร้างท่อส่งน้ำมันจากจังหวัดพังงานสู่นครศรีธรรมราชเพียงเส้นทางเดียว เพื่อรองรับความต้องการน้ำมันของภูมิภาคเอเชียมากกว่าจะป้อนน้ำมันให้เฉพาะไทยประเทศเดียวที่อาจไม่คุ้มค่าเชิงพาณิชย์ในอนาคต