ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

พาณิชย์ จ่อคลอดเกณฑ์อำนาจเหนือตลาดฉบับใหม่ ลดช่องว่างกม.เพิ่มความเป็นธรรมให้ผู้บริโภค

เศรษฐกิจ
5 มิ.ย. 54
15:01
30
Logo Thai PBS
พาณิชย์ จ่อคลอดเกณฑ์อำนาจเหนือตลาดฉบับใหม่ ลดช่องว่างกม.เพิ่มความเป็นธรรมให้ผู้บริโภค

นายอนุรุทธิ์ โค้วคาสัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และกรรมการในคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องการกำหนดเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาด เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องการกำหนดเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาด ครั้งล่าสุด ได้มีมติให้กำหนดเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาดเป็นเกณฑ์เดียวที่ใช้กับทุกธุรกิจ โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการธุรกิจที่อยู่ในเกณฑ์ฯ มียอดเงินขายตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป จากเดิมตั้งแต่ 1,000 ล้านบาท และกำหนดส่วนแบ่งการตลาดที่เข้าเกณฑ์เป็น 3 ระดับ ดังนี้ ระดับที่ 1 รายใดมีส่วนแบ่งการตลาด ตั้งแต่ร้อยละ 50 ขึ้นไป (ให้ใช้เกณฑ์เดียวกับปัจจุบัน)  ระดับที่ 2 รายใดมีส่วนแบ่งการตลาด ตั้งแต่ร้อยละ 30 ขึ้นไป โดยให้พิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบ ระดับที่ 3 ส่วนแบ่งตลาด 3 รายรวมกัน ตั้งแต่ร้อยละ 75 ขึ้นไป ให้พิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบ โดยยกเว้นผู้ประกอบธุรกิจรายใดรายหนึ่งที่มีส่วนแบ่งตลาดในปีที่ผ่านมาต่ำกว่าร้อยละ 10 หรือ ยอดเงินขายต่ำกว่า 500 ล้านบาท

ทั้งนี้ การพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ใน 5 ด้าน ได้แก่ ความสามารถในการควบคุมตลาด อุปสรรคการเข้าสู่ตลาด ศักยภาพของคู่แข่ง การจำกัดการแข่งขัน และอื่นๆ ซึ่งเกณฑ์ดังกล่าวได้พิจารณาเทียบเคียงจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ทั้งในอเมริกา ยุโรป เอเชีย และกลุ่มอาเซียน โดยปรับให้ทันสมัยและเหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย  ปัจจุบันผู้ประกอบธุรกิจในประเทศไทยรายใหญ่จำนวนมาก ได้มีการขยายกิจการออกไปทั้งแนวนอนและแนวดิ่ง เช่น การทำธุรกิจครบวงจร การตั้งบริษัทในเครือ เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมากฎหมายไทยมีช่องว่าง การตีความให้ผู้ประกอบรายเดียวคือ 1 นิติบุคคล ทำให้คณะกรรมการแข่งขันทางการค้าไม่สามารถที่จะเอาผิดได้ เพราะเมื่อพิจารณาในส่วนของยอดขาย หรือ Market Share ก็จะไม่เข้าเกณฑ์

ดังนั้น การปรับหลักเกณฑ์การพิจารณาอำนาจเหนือตลาดตามมาตรา 25 พรบ. การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542 ในราชกิจจานุเบกษา จะช่วยลดช่องว่างทางข้อกฎหมาย ทำให้ตลาดในไทยมีการแข่งขันที่เป็นธรรมมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจสัญชาติไทยขนาดเล็ก (SMEs) สามารถแข่งขันและเติบโตในตลาดได้ และที่สำคัญคือนำมาซึ่งความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภคในประเทศ
   
นายอนุรุทธิ์ กล่าวว่า การนำเสนอร่างดังกล่าวต่อ นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อนำเรื่องเข้าประชุมคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า และเสนอ ครม. ต่อไป หากเกณฑ์ดังกล่าวได้รับการเห็นชอบ  จะทำให้กลุ่มธุรกิจบางประเภท เข้าข่ายเฝ้าระวังเป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาด เช่น น้ำมันดีเซล เบียร์ ปุ๋ยเคมี แผ่นเหล็กเคลือบดีบุก นมถั่วเหลือง ปลากระป๋องในซอส เม็ดพลาสติกPE ยางรถยนต์ เยื่อกระดาษ เป็นต้น อย่างไรก็ตามหากจะให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรมในตลาดมากขึ้น ควรต้องมีการปรับปรุง พรบ. การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542 ในบางเรื่อง เช่น การเพิ่มเติมคำจำกัดความ "ผู้ประกอบธุรกิจ" และ "ผู้มีอำนาจเหนือตลาด" ให้คลอบคลุมไปถึงบริษัทในเครือตามหลักสากล  โดยจะนำเสนอให้คณะกรรมการชุดปรับปรุงกฎหมายการแข่งขันทางการค้าต่อไป


ข่าวที่เกี่ยวข้อง