หลังจากเข้ารับการรักษาอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือ โรคพีวีซี ที่สถาบันโรคทรวงอกหลายวัน ล่าสุดเมื่อวานนี้(27 ม.ค.) นางณัฐชยาและนายคำนึง ซ้อนขำ มารดาและบิดา ได้ไปรับน้องเล็ก ชนาธิป กลับไปพักผ่อนที่ศูนย์ฝึกกีฬาเทควันโดแห่งชาติ ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากหัวใจของน้องเล็กตอบสนองกับยาที่ได้รับจนกลับมาเต้นเป็นปกติ คงที่และไม่สะดุดแล้ว
ตอนนี้กำลังใจดีขึ้นมากพยายามไม่กังวลเพราะสาเหตุหนึ่งที่แพทย์ระบุก็คือเกิดจากความเครียดเหมือนเช่นคุณตา และบิดาเคยเป็นมาก่อนหน้านี้ หลังจากนี้ก็พยายามรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งและทำจิตใจให้สบาย จะได้กลับไปแข่งขันเพื่อเป้าหมายในการคว้าเหรียญทองโอลิมปิกในอีก 3 ปีข้างหน้าให้ได้
ช่วง 2-3 วันนี้แพทย์อนุญาตให้น้องเล็กซ้อมได้เบาๆ จากนั้นวันที่ 31 มกราคม น้องเล็กจะต้องกลับไปตรวจอาการล่าสุดที่สถาบันโรคทรวงอกอีกครั้ง หากไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงน้องเล็กก็จะกลับไปซ้อมหนักได้เหมือนเดิม
น้องเล็ก ชนาธิป บอกว่า จะไม่ประมาทเด็ดขาดโดยได้ซื้อเครื่องเช็คชีพจรมาติดตัวไว้ตลอดเวลาเพื่อดูจังหวะการเต้นของหัวใจด้วยตัวเอง พร้อมฝากไปยังนักกีฬาคนอื่นๆ ว่า นักกีฬาใช่ว่าจะแข็งแรงทุกคนโรคบางโรคอาจยังไม่แสดงอาการ ดังนั้นจึงควรตรวจร่างกายอย่างละเอียดเป็นประจำ
กรณีของน้องเล็ก ชนาธิป ถือว่าโชคดีที่ตรวจพบอาการในช่วงแรก โดยหลังจากคว้าเหรียญทองแดงโอลิมปิก2012 น้องเล็กได้หยุดซ้อมไปหลายเดือน จนถึงช่วงต้นปีก็กลับมาซ้อมอีกครั้งเพื่อลงแข่งรายการ "ภูเก็ต เช ยอง ซอกฯ" แต่ระหว่างฝึกซ้อมพบว่ามีอาการแน่นหน้าออก เหนื่อยง่าย และหน้ามืด อีรวมทั้งมีอาการเจ็บบริเวณหัวเข่า จึงไปพบแพทย์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา ภายใน กกท. ซึ่งมีการตรวจร่างกาย และคลื่นหัวใจ ปรากฎว่า หัวใจเต้นผิดปกติ คือ เต้นๆ หยุดๆ นับได้ 30-33 ครั้งต่อนาที จึงส่งน้องเล็กไปตรวจที่สถาบันโรคทรวงอกและพบอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะในที่สุด
ตามปกตินักกีฬาของไทยในแต่ละชนิดกีฬาจะต้องเข้ารับการตรวจและทดสอบสมรรถภาพกับศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬากกท. ทุกๆ 2-3 เดือน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการตรวจเลือดและหัวใจร่วมด้วย