ภาคประชาชนเตรียมเดินหน้าเสนอปรับแก้ 
การประชุมวิชาการสุราระดับชาติ ครั้งที่ 7 วันสุดท้าย มีการเสวนา 10 ปี ของภาคประชาสัมคมรากฐานที่ยั่งยืน โดยระบุว่า ภาคประชาชนเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดัน ให้เกิดกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปี 2551
ที่ผ่านมาธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หวังกอบโกยประโยชน์จากประชาชน โดยไม่สนใจผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสุขภาพ ซึ่งบทบาทของภาคประชาชนในลักษณะเครือข่ายทั่วประเทศ ได้ร่วมกันเฝ้าระวัง ป้องกัน และช่วยสร้างความตระหนัก ถึงผลกระทบของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เกิดขึ้น ทั้งด้านสังคม วัฒนธรรม และสุขภาพ ได้เป็นอย่างดี
ธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์การงดเหล้า บอกว่า ปัจจุบันสังคมเริ่มตื่นตัวกับผลกระทบ จากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่การบังคับใช้กฎหมาย ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับประชาชนแทบทุกฉบับ มีปัญหาอยู่ที่การบังคับใช้ อีกทั้งมีความพยายามแทรกแซงจากภาคธุรกิจ ให้ลดทอน ปรับเนื้อหาในข้อกฎหมายบางประเด็น เพื่อเอื้อต่อธุรกิจของตัวเอง
ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์การงดเหล้า ระบุด้วยว่า จากนี้การทำงานของภาคประชาชน ในการเฝ้าระวังปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้องเน้นการให้ข้อมูลเชิงลึกกับผู้บริโภค เช่น ผู้ค้ารายย่อยที่ยังพบการละเมิด กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งได้รับข้อมูลที่บิดเบือนจากภาคธุรกิจว่าสามารถทำได้
ขณะเดียวกัน จะเร่งผลักดันการปรับแก้กฎหมายสุรา ปี 2493 ที่มีเนื้อหาไม่สอดคล้องกับสังคมปัจุบัน เช่น การยื่นขอใบอนุญาตขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ทำได้ง่ายเกินไป ซึ่งกรมสรรพสามิตต้องปรับมาตรการให้รัดกุมมากขึ้น