สธ.เตือน ปชช. ระวัง
ข้อมูลการเฝ้าระวังโรคจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าปีที่ผ่านมา (2557) พบผู้ป่วยโรคไข้ฉี่หนูทั้งหมด 2,263 คน เสียชีวิต 25 คน ส่วนสถานการณ์ในปี 2558 ตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน พบผู้ป่วยแล้ว 225 คน เสียชีวิต 4 คน ส่วนใหญ่พบในอาชีพเกษตรกรเกือบร้อยละ 50 โดยจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด คือ ระนอง นครศรีธรรมราช ศรีสะเกษ น่าน และสตูล
สำหรับโรคฉี่หนู (โรคเลปโตสไปโรสิส) เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ปนเปื้อนในน้ำหรือที่ชื้นแฉะ โดยมีหนูเป็นพาหะหลักในการแพร่เชื้อ รวมทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด ซึ่งเชื้อโรคฉี่หนูจะเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนัง รอยแผล รอยถลอก เยื่อบุของตา จมูก ปาก หรือผิวหนังปกติที่แช่น้ำเป็นเวลานาน รวมทั้งติดจากการกินอาหารหรือน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อนเข้าไป
ผู้ป่วยมักแสดงอาการหลังได้รับเชื้อ 1-2 สัปดาห์ คือมีไข้สูงฉับพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และเบื่ออาหาร ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจมีอาการแทรกซ้อนคือตัวเหลือง ตาเหลือง ไตวาย หรืออาการทางสมองและระบบประสาท อาจถึงเสียชีวิตได้
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคแนะนำประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำ ย่ำโคลนที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน หากจำเป็นขอให้สวมถุงมือยาง ใส่รองเท้าบูทยาง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ หมั่นล้างมือบ่อยๆ ชำระร่างกายหลังลุยน้ำ ดื่มน้ำต้มสุกและรับประทานอาหารที่ปรุงสุก รวมทั้งทำความสะอาดที่อยู่อาศัยเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาหารของหนู