ทางการรัสเซียไม่พบซากอุกกาบาต-สั่งนักประดาน้ำหยุดค้นหาแล้ว
ทางการรัสเซียสั่งให้ทีมนักประดาน้ำ 6 คน หยุดค้นหาซากอุกกาบาตในทะเลสาบน้ำแข็งบนเทือกเขาอูราล หลังจากพบรอยแตกกว้าง 6 เมตรบริเวณผิวน้ำแข็ง แต่กลับไม่พบหลักฐานชิ้นสำคัญ พบเพียงวัตถุชิ้นเล็กๆ ขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร ซึ่งเชื่อว่าอาจเป็นชิ้นส่วนของอุกกาบาต
หลังจากไม่พบซากอุกกาบาต ทำให้ชาวรัสเซียสงสัยว่าเหตุการณ์ที่มีกลุ่มควันพุ่งพาดผ่านบนท้องฟ้าแคว้นเชลยาบินส์ ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหรรมที่มีโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์และโรงเก็บกากนิวเคลียร์นั้น อาจเกิดจากทฤษฎีสมคบคิด โดยนายวลาดิเมียร์ ซิรินอฟสกี้ ซึ่งมีแนวคิดชาตินิยม กล่าวว่าน่าจะเป็นการทดสอบอาวุธชนิดใหม่ของสหรัฐฯ ไม่ใช่อุกกาบาตตก
ส่วนองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติคาดว่าก่อนเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก อุกกาบาตน่าจะมีขนาดประมาณ 17 เมตร และมีน้ำหนักกว่า 10,000 ตัน รวมทั้งปล่อยพลังงาน 500 กิโลตัน หรือมากกว่าแรงระเบิดปรมาณูที่ถล่มเมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่นถึง 30 เท่า แต่เมื่ออุกกาบาตเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกแล้ว กลับมีน้ำหนักประมาณ 10 ตัน
ทางการรัสเซียประเมินความเสียหายเบื้องต้นไว้ที่ 1,000 ล้านรูเบิ้ล หรือ ประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากกระจกประตูหน้าต่างแตก ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1,200 คน ส่วนใหญ่ถูกกระจกบาดและยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาลราว 50 คน ขณะที่ชาวแคว้นเชลยาบินส์กลับมาใช้ชีวิตตามปกติแล้ว
อย่างไรก็ตาม ชาวเชลยาบินส์กำลังประสบปัญหาราคากระจกแพงขึ้นมาก เพราะมีความต้องการใช้กระจกจำนวนมาก เนื่องจากกระจกหน้าต่างและประตูพังเสียหายเนืองจากแรงกระแทกของอุกกาบาต คาดว่ามีอาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 3,700 หลัง และมีกระจกแตกกินบริเวณกว้างกว่า 200,000 ตารางเมตร
ส่วนรัฐบาลรัสเซียประกาศจะให้เงินชดเชยแก่ผู้ที่ต้องซื้อกระจกมาซ่อมแซม ซึ่งสื่อท้องถิ่นรายงานว่ามีบางคนทำกระจกแตกเสียเองเพื่อจะได้รับเงินชดเชย แต่ผู้ขายกระจกบอกว่าไม่น่าเป็นไปได้เพราะราคากระจกแพงกว่าเงินชดเชยที่จะได้รับ
นอกจากนี้ ที่สหรัฐฯ ยังพบลำแสงสีฟ้าพุ่งพาดผ่านท้องฟ้าบริเวณอ่าวซานฟรานซิกโกเมื่อคืนวันศุกร์(15 ก.พ)ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเป็นวัตถุชนิดใด รายงานนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดเหตุการณ์ที่เชื่อว่าอุกกาบาตตกแถบเทือกเขาอูราลของรัสเซีย