วันนี้ (5 ก.ย. 67) นับถอยหลังอีกเพียง 9 สัปดาห์ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ความสัมพันธ์ของสหรัฐฯ กับรัสเซียเดินมาถึงจุดตึงเครียดอีกครั้ง หลัง เมอร์ริก การ์แลนด์ รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ กล่าวหา RT สื่อทางการรัสเซีย ว่าจ้างบริษัทแห่งหนึ่งในรัฐเทนเนสซี ผลิตและเผยแพร่เนื้อหาสร้างความแตกแยกต่อชาวอเมริกัน เพื่อหวังแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ในวันที่ 5 พ.ย.นี้ ด้าน วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวสนับสนุนคามาลา แฮร์ริส ระหว่างเข้าร่วมประชุม Eastern Economic Forum ที่เมืองวลาดิวอสตอก
รัสเซียเปิดฉากโจมตีทางอากาศยูเครนครั้งใหญ่ตลอด 2 วันนี้ สร้างความสูญเสียมากที่สุดนับตั้งแต่สงครามเปิดฉากขึ้นเมื่อปี 2022 ซึ่งท่ามกลางการโจมตีตอบโต้กันระหว่างรัสเซียกับยูเครนในสงคราม การเมืองภายในของยูเครนกำลังเผชิญภาวะสั่นคลอนหนักมากขึ้น หลังจากรัฐมนตรีอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์ที่ดูแลการผลิตอาวุธ ประกาศลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (3 ก.ย.) รัฐมนตรีต่างประเทศยื่นหนังสือลาออกเช่นกัน ส่งผลให้จำนวนรัฐมนตรีไขก๊อก ในรัฐบาลชุดนี้ เพิ่มเป็น 7 คนแล้ว ส่วนรายชื่อของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะประกาศภายในช่วงสัปดาห์นี้ ท่ามกลางการจับตามองถึงการปรับเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีเกินครึ่งหนึ่ง หลายกระทรวงอาจยุบรวมเป็นกระทรวงเดียวให้คล่องตัวมากขึ้นขณะที่ฝ่ายค้านเสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เพื่อยุติการกุมอำนาจเบ็ดเสร็จ
สำนักข่าว Reuters เปิดเผยภาพถ่ายดาวเทียมของคลังเก็บหัวรบนิวเคลียร์ และฐานยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์รุ่นใหม่ บูเรเวสต์นิก การตรวจพบความเคลื่อนไหวดังกล่าวในภาพถ่ายดาวเทียม ชี้ให้เห็นว่ารัสเซียเตรียมประจำการขีปนาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง ตามปกติกองทัพรัสเซียมักจะจัดเก็บหัวรบนิวเคลียร์ห่างจากฐานยิง ยกเว้นหัวรบของขีปนาวุธข้ามทวีป หรือ ICBM ผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานวิจัยด้านนิวเคลียร์ในโลกตะวันตก ระบุว่า ขีปนาวุธบูเรเวสต์นิก จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงกัมมันตรังสีรั่วไหล แต่การประจำการขีปนาวุธรุ่นใหม่ อาจเพิ่มอำนาจต่อรองให้รัสเซียในการเจรจาสนธิสัญญา New START รอบใหม่ 2 ปีข้างหน้า
เมื่อวานนี้ (2 ก.ย. 67) เป็นวันเปิดเรียนวันแรกในยูเครน ซึ่งรัสเซียเปิดฉากยิงขีปนาวุธถล่มหลายเมือง จนทำให้เด็ก ๆ ต้องย้ายไปเรียนกันในพื้นที่ใต้ดิน ท่ามกลางความเสียหายตามเมืองใหญ่ . นอกจากนี้ยังมีข้อมูลน่าสนใจจากสถาบันเพื่อการศึกษาสงครามที่ระบุว่า รัสเซียรุกคืบเข้าไปในดินแดนยูเครนได้มากที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี ตลอดช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ท่ามกลางการเผชิญหน้าในสงครามรัสเซีย-ยูเครน และการตอบโต้กับชาติตะวันตก รัสเซียก็กำลังถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีการส่งสายลับเพื่อสืบข้อมูล โดยแฝงตัวในรูปแบบของพลเรือนประกอบอาชีพปกติ จากเดิมที่มาฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยเรื่องนี้มีการวิเคราะห์จากการแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งใหญ่เมื่อเดือนที่แล้ว
ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมา 2 ปีครึ่ง ในยูเครนและรัสเซีย สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดการเปิดปฏิบัติการโจมตีตอบโต้กันไปมาของ 2 ฝ่าย ในยูเครนทำให้ประชาชนบาดเจ็บร่วม 50 คน ส่วนรัสเซียดูเหมือนโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานจะได้รับความเสียหายจากการส่งโดรนไปโจมตีของยูเครน ท่ามกลางการเปิดปฏิบัติการรุกคืบ ที่จุดชนวนให้รัสเซียเดินหน้าตอบโต้
วันนี้ (29 ส.ค. 67) การต่อสู้กันอย่างดุเดือดของรัสเซียกับยูเครนในภูมิภาคคูร์สก์ ถูกหยิบไปพูดถึงในการประชุมสุดยอดข่าวกรองและความมั่นคงแห่งชาติ เดวิด โคเฮน รองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ CIA ชี้ว่า กำลังพลรัสเซียจะเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบากในแนวรบ แม้ว่าวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียเตรียมยกระดับปฏิบัติการ ทวงคืนดินแดน 777 ตารางกิโลเมตรภายใต้การควบคุมของยูเครน ความตึงเครียดสะท้อนให้เห็นได้จากท่าทีของ เซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย ที่ส่งสัญญาณเตือนสหรัฐฯ ถึงความเสี่ยงของสงครามโลก ครั้งที่ 3 พร้อมย้ำชัดเจนถึงหลักการใช้นิวเคลียร์ หลังจากรัฐบาลรัสเซียปรับแก้รายละเอียดในหลักการ เมื่อปี 2563
ท่ามกลางการโจมตีตอบโต้กันระหว่างรัสเซียกับยูเครนตลอด 2 วันมานี้ วันนี้ (28 ส.ค. 67) โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้เตรียมเสนอแผนยุติสงครามต่อผู้นำสหรัฐฯ เดือนหน้า ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ หรือ UNGA ที่นิวยอร์ก หัวใจสำคัญของแผนการนี้ คือ การกดดันให้รัสเซียยอมยุติสงคราม ท่ามกลางปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย 2 วันติดต่อกัน เซเลนสกีประกาศความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธผลิตในประเทศ ชื่อ “ปาเลียนึตเซีย” เป็นชื่อของอาวุธไฮบริดรุ่นใหม่มีพลังทำลายล้างสูง ความเคลื่อนไหวของยูเครนชี้ว่า การเจรจายังห่างไกลความจริง เนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
ภาพถ่ายดาวเทียมเผยให้เห็นร่องรอยความเสียหายที่สะพานข้ามแม่น้ำในภูมิภาคคูร์สค์ของรัสเซีย ซึ่งทางการรัสเซียระบุว่าถูกยูเครนโจมตีเสียหาย กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยว่ายูเครนใช้จรวดของชาติตะวันตก ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นจรวดไฮมาร์สของสหรัฐฯ ทำลายสะพานดังกล่าว โดยส่งผลให้อาสาสมัครที่กำลังช่วยอพยพพลเรือนเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง ขณะที่มีรายงานว่า สะพานแห่งนี้เป็นเส้นทางสำคัญที่รัสเซียใช้ลำเลียงอาวุธ เสบียงและกำลังพลเข้าทำสงครามในยูเครน
ครบ 1 สัปดาห์แล้วหลังยูเครนเปิดปฏิบัติการที่สร้างความประหลาดใจไปทั่ว เมื่อส่งกองกำลังทหารบุกเข้าไปในเมืองชายแดนในฝั่งรัสเซีย จนถึงวันนี้ยูเครนอ้างว่ายืดพื้นที่ในรัสเซียได้แล้วกว่า 1 พันตารางกิโลเมตร แต่ยูเครนยืนยันว่าไม่ได้ต้องการดินแดนของรัสเซีย และปฏิบัติการที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ 6 สิงหาคมนี้ดูจะเป็นการกดดันให้เกิดการเจรจาสันติภาพ หรือเบี่ยงเบนและบั่นทอนกำลังของแนวรบรัสเซียทางด้านตะวันออกของยูเครนมากกว่า
"โจ ไบเดน" ผู้นำสหรัฐฯ ต้อนรับนักโทษ ที่ได้รับการปล่อยตัวจากรัสเซีย ซึ่งถือเป็นข้อตกลงแลกเปลี่ยนตัวนักโทษครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่สงครามเย็นสิ้นสุดลง ขณะที่มีการเปิดเผยว่า การเจรจาครั้งนี้ มีความพยายามที่จะนำตัว "อเลกซี นาวาลนี" กลับมาด้วย
ข้อได้เปรียบหนึ่งของกองทัพรัสเซียเหนือยูเครน คือกำลังรบทางอากาศ ซึ่งอากาศยานของรัสเซียมีตั้งแต่เฮลิคอปเตอร์จู่โจม เครื่องบินขับไล่ไปจนถึงเครื่องบินทิ้งระเบิด ดังนั้นการป้องกันของยูเครน นอกจากจะสกัดการโจมตีจากเครื่องบินเหล่านั้นแล้ว ก็คือการลดจำนวนเครื่องบิน ไม่ว่าจะผ่านการทำลาย หรือยึดเอาไป สื่อรัสเซียเผยแพร่บทสัมภาษณ์นักบินกองทัพอากาศรัสเซีย ที่อ้างว่าได้รับการติดต่อจากสายลับยูเครน ให้ขับเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกลที่สามารถโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ได้ ไปยังดินแดนของยูเครน ขณะที่ครอบครัวของนักบินจะได้รับความช่วยเหลือ แต่สามารถขัดขวางแผนดังกล่าวไว้ได้ โดยเครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่นที่อยู่ในแผนของยูเครน คือ รุ่น Tu-22M3 เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ซูเปอร์โซนิก ทำความเร็วได้สูงสุด 2,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือเร็วกว่าเสียงเกือบ 2 เท่า และมีระยะทำการ 7,000 กิโลเมตร ถือเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดที่รัสเซียใช้ในปฏิบัติการโจมตียูเครนมาตั้งแต่ปี 2022
เหตุรัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีเมืองต่าง ๆ ทั่วยูเครน ครั้งรุนแรง ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุดมีการเปิดภาพกล้องหน้ารถยนต์ที่บันทึกภาพขณะอาคารโรงพยาบาลศูนย์นรีเวชและการวางแผนครอบครัว ในกรุงเคียฟเกิดระเบิดพร้อมกลุ่มควันขนาดใหญ่ ขณะที่มีเสียงคล้ายสะเก็ดจากการระเบิดกระทบตัวรถ โรงพยาบาลดังกล่าวเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ให้บริการเกี่ยวกับสุขภาพผู้หญิงที่ใหญ่ที่สุดในยูเครน ซึ่งความเสียหายจากการโจมตีโดยขีปนาวุธของรัสเซีย เกิดขึ้นไล่เลี่ยกับเหตุโจมตีโรงพยาบาลเด็กในกรุงเคียฟ เมื่อวัน 8 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 44 คน และบาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 190 คน นับเป็นการโจมตียูเครนที่รุนแรงที่สุดระลอกหนึ่งในรอบหลายเดือน
ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับตะวันตกจากสงครามยูเครน “มาร์ก รุตเต้” นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ เตรียมขึ้นมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่นาโตคนใหม่ ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ มาร์ก รุตเต มีจุดยืนสนับสนุนยูเครนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างแข็งขันมาตลอด การเปลี่ยนแปลงผู้นำขององค์การนาโตเกิดในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ เนื่องจากหลายประเทศกังวลว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” อาจคว้าชัยในการเลือกตั้งสหรัฐฯ จนส่งแรงกระเพื่อมต่อกลไกความมั่นคงของพันธมิตรในอนาคตได้ รายงานพิเศษของสำนักข่าว Reuters ระบุว่า ที่ปรึกษาคนสำคัญของโดนัลด์ ทรัมป์ได้เสนอแผนปูทางไปสู่การยุติสงครามในยูเครน หากทรัมป์คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งในวันที่ 5 พ.ย.นี้ แผนการนี้ยื่นเงื่อนไขให้ยูเครนยอมเข้าสู่กระบวนการเจรจาสันติภาพ ไม่เช่นนั้นสหรัฐฯ จะไม่ยอมจัดส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ยูเครนอีกต่อไป
เหตุการณ์ในรัสเซียที่เกิดตั้งแต่วันอาทิตย์คือเหตุโจมตีในดาเกสถาน ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มขึ้นเป็น 20 คนแล้ว ขณะเดียวกันยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ โดยรัสเซียยังอยู่ระหว่างสอบสวน แต่ผู้ว่าการของดาเกสถานส่งสัญญาณว่าเหตุนี้อาจมีต่างชาติอยู่เบื้องหลัง หน่วยข่าวกรองรัสเซียเข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ซึ่งเกิดการโจมตีขึ้นในสาธารณรัฐดาเกสถาน ทางตอนใต้ของประเทศ
ส่วนที่รัสเซียเกิดเหตุโจมตีขึ้นซ้อนหลายจุดทางตอนใต้ของประเทศ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 9 คนและบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในดาเกสถาน ซึ่งเคยเกิดเหตุโจมตีโดยกลุ่มมุสลิมสุดโต่งมาแล้วหลายครั้ง และครั้งนี้สถานที่ที่ตกเป็นเป้าการโจมตีมีทั้งโบสถ์ออร์โธดอกซ์และโบสถ์ยิว
การพบกันอีกครั้งของ วลาดิเมียร์ ปูติน และ คิม จอง-อึน สะกดทุกสายตาจากทั่วโลกโดยเฉพาะชาติตะวันตก เมื่อทั้ง 2 ประเทศต่างมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ท่ามกลางข้อสังเกตว่า รัสเซีย และเกาหลีเหนือ มีข้อแลกเปลี่ยนที่เป็นผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีอวกาศให้กับเกาหลีเหนือ หรือการสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์สำหรับรัสเซียในการโจมตียูเครน การเยือนกรุงเปียงยางของปูติน กำลังถูกจับจ้องว่าจะมีข้อตกลงเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่