ทุ่มงบฯ 500 ล้านบาท เปลี่ยนโครงข่าย
นายยงยุทธ วัฒนสินธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีที่เกิดปัญหาผู้ใช้บริการอินเตอร์เครือข่ายทีโอทีล่มเป็นเวลานานกว่า 10 ชั่วโมง เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556 คลอบคุลมพื้นที่ทั่วประเทศ ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น ทางทีโอทีไม่ได้นิ่งเฉยแต่อย่างใด ได้มีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปแล้ว โดยปัญหาที่เกิดขึ้นสาเหตุมาจากเราท์เตอร์จำนวน 19 จังหวัดทั่วประเทศเกิดความผิดปกติ มีลูกค้าได้รับผลกระทบประมาณ 1-2 แสนราย จากนั้นเจ้าหน้าที่ส่วนกลาง จึงดำเนินการแก้ไข โดยการรีเซ็ตทั้งหมด เพื่อให้เราท์เตอร์ทำงานมาใหม่ ขณะเดียวกัน เราท์เตอร์ทั้ง 19 จังหวัดก็อัพเดตข้อมูลขึ้นมาใหม่จึงทำให้ รีเฟลกเตอร์ ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับระบบซอฟต์แวร์ที่ทำงานในเราท์เตอร์ทำงานอย่างหนัก จากนั้นจึงเร่งดำเนินการแก้ไขแล้วเสร็จไปเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ทางทีโอทีได้วางแนวทางระยะสั้น เพื่อดูแลโครงข่ายในเรื่องของการจำกัดจำนวนการเข้าถึงเราท์เตอร์ ความไม่คล่องตัวในการทำงานของพนักงานอาจจะลดลง แต่ความปลอดภัยจะเพิ่มขึ้นแน่นอน อยากให้ความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าว่าจะไม่ได้รับผลกระทบแน่นอน ซึ่งภายในปีนี้เรามีแผนว่าจะเปลี่ยนโครงข่ายจากสายทองแดง เป็นสายไฟเบอร์ออฟติค ปัจจุบันโครงข่ายบนสายทองแดงมีมากถึง 95% ทั่วประเทศ
ส่วนลูกค้าที่เป็นรายใหญ่นั้น ได้มีการทำสัญญากันตั้งแต่ต้นแล้วเรื่องค่าปรับ สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินออกมาเป็นตัวเลขได้ แต่มั่นใจว่าไม่ได้สูงจนเกินไปแน่นอน
นายมรกต เธียรมนตรี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันทีโอทีมีลูกค้า ADSL ประมาณ 1.4 ล้านราย คาดว่าปีนี้จะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นประมาณ 2 แสนราย รวมสิ้นปีคาดว่าจะมีลูกค้า ADSL ถึง 1.6 ล้านราย ในปี 56 นี้ ทีโอทีปรับแผนใหม่เกือบทั้งหมด โดยจะโอนย้ายลูกค้าประมาณ 4.2 แสนรายไปใช้บริการบนโครงข่ายของไฟเบอร์ออฟติค หรือ FTTX คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ประมาณไตรมาสที่ 2 ของปี 2556
"เราจะทุ่มงบประมาณ 500 ล้านบาทเพื่อพัฒนาอุปกรณ์และโครงข่ายให้ดีขึ้น งบประมาณนี้ได้รวมการเปลี่ยนจากสายทองแดงเป็นสายไฟเบอร์ ออฟติคด้วย ซึ่งขณะนี้เรามีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 30% และคาดว่าปี 56 นี้ รายได้จะเติบโตอย่างน้อย 10-20%" นายมรกตกล่าว