นายลี เมียง บั๊ก ประธานาธิบดีเกาหลีใต้อายุ 71 ปี กล่าวสุนทรพจน์ต่อประชาชนในวันนี้ ซึ่งถือเป็นสุนทรพจน์ครั้งสุดท้ายในฐานะประธานาธิบดี ก่อนลงจากตำแหน่ง โดยกล่าวอวยพรแก่นางสาวปาร์ก กึน เฮย์ ว่าที่ประธานาธิบดีที่จะสาบานตนรับตำแหน่งในวันจันทร์หน้า (25 ก.พ.) พร้อมกันนี้ นายลี เมียง บั๊ก ยังขอโทษประชาชน ต่อข่าวอื้อฉาวในกรณีที่คนใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วยคนสำคัญ บุตรชาย และพี่ชายแท้ๆ พัวพันในคดีคอร์รัปชั่น
ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยังใช้โอกาสสุดท้ายในตำแหน่ง กล่าวเตือนเกาหลีเหนือให้ยุติโครงการนิวเคลียร์ และการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งจะยิ่งเป็นการทำให้เกาหลีเหนือถูกประชาคมโลกโดดเดี่ยวมากยิ่งขึ้น และที่พบทางตันในที่สุด ดังนั้นเกาหลีเหนือควรเปิดรับการเจรจากับเกาหลีใต้ พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า การรวมชาติจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้
สุนทรพจน์ของผู้นำเกาหลีใต้ และการเปลี่ยนถ่ายอำนาจผู้นำ เกิดขึ้นในช่วงที่เกาหลีใต้ เผชิญกับความตึงเครียดทั้งบนคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งวันนี้มีชาวเกาหลีใต้กลุ่มหนึ่ง เดินขบวนไปยังหน้าสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงโซล เพื่อเรียกร้องให้มีการเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ เพราะเชื่อว่าการคว่ำบาตรจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ดังนั้นจึงอยากให้ใช้วิธีการที่สันติในการแก้ไขปัญหา
นอกจากความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีแล้ว ว่าที่ผู้นำยังต้องแก้ไขปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในเอเชียตะวันออกที่ตึงเครียดจากกรณีพิพาททางทะเล โดยเฉพาะกับญี่ปุ่น
วันนี้(19 ก.พ.)โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์หลังจากสำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่น รายงานว่ารัฐบาลญี่ปุ่นอาจพิจารณาจะส่งผู้ช่วยรัฐมนตรี ไปร่วมงานเฉลิมฉลองในวันที่กลุ่มอนุรักษ์นิยมของญี่ปุ่น เรียกว่าเป็นวันทาเกะชิมะ ซึ่งเป็นการกล่าวอ้างสิทธิเหนือเกาะพิพาทของทั้งสองประเทศ
โฆษกกระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่น ยับยั้งการกระทำที่เป็นการอ้างสิทธิแต่เพียงฝ่ายเดียว และควรพิจารณาถึงประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งยืนยันว่า เกาะด็อกโด หรือ ทาเกะชิมะ เป็นของเกาหลีใต้
ที่ผ่านมามีความพยายามทางการทูตในการแก้ไขข้อพิพาททางทะเลระหว่างชาติในเอเชียตะวันออก แต่ก็ยังแก้ปัญหาไม่ลุล่วง ประกอบกับช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาเปลี่ยนถ่ายอำนาจการปกครองของทั้งเกาหลีใต้ จีน และญี่ปุ่น
แต่ความพยายามยังคงเดินหน้า ล่าสุดนักการทูตอาวุโสของญี่ปุ่น เดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง เพื่อหารือเกี่ยวกับกรณีพิพาททางทะเล ซึ่งในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมามีการเผชิญหน้าเพิ่มขึ้น ซึ่งญี่ปุ่นระบุว่าจีนล็อคเป้าไปยังเรือและเฮลิคอปเตอร์ตรวจการณ์ของญี่ปุ่นบริเวณเกาะเซ็นกากุ หรือเตี้ยวอวี๋
ขณะที่จีนปฏิเสธและยืนยันสิทธิเหนือเกาะเตี้ยวอวี๋และน่านน้ำ ท่ามกลางความกังวลของนานาชาติ ว่าเหตุพิพาทที่เกิดขึ้น อาจนำไปสู่การปะทะกัน ซึ่งจะส่งผลกระทบด้านความมั่นคงทั่วเอเชีย
แต่แม้จะมีข้อพิพาท แต่ขณะเดียวกันทั้ 2 ประเทศก็ร่วมกันหารือเกี่ยวกับมาตรการต่อเกาหลีเหนือ หลังเกาหลีเหนือทดลองนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 3 โดยไม่ฟังเสียงทัดทานของนานาชาติ รวมทั้งจีนที่เป็นพันธมิตรสำคัญ