การทดสอบผู้ตัดสินไทยลีก
ผู้ตัดสินที่จะลงทำหน้าที่ในโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก และยามาฮ่าลีกวัน เข้ารับการทดสอบสมรรถภาพทั้งหมด 120 คน ซึ่งสภาพร่างกายที่สมบูรณ์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในอาชีพผู้ตัดสินทั้งระดับอีลิท ฟีฟ่า และชั้น 1 ที่มีประสบการณ์ และผ่านการทดสอบประจำปี
ผู้ตัดสินเหล่านี้เท่านั้นจะสามารถขึ้นไปตัดสินโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก กับยามาฮ่าลีกวันได้ พอผ่านการทดสอบสมรรถภาพร่างกายแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือการอบรมเรื่องกติกา และสภาพจิตใจที่จะต้องแบกรับความกดดันในเกมฟุตบอลให้ได้
สำหรับเกณฑ์การทดสอบผู้ตัดสินในลีกของไทยใช้เกณฑ์จาก AFC ซึ่งต้องทดสอบด้วยการวิ่งระยะสั้น และ วิ่งสลับเดิน โดยการวิ่งระยะสั้นทั้งหมด 40 เมตร จะต้องวิ่งได้ไม่เกินเที่ยวละ 6.2 วินาที กำหนดไว้ 6 เที่ยว
จากนั้นจะเป็นการทดสอบวิ่งแล็บ ระยะทาง 150 เมตร เวลาต้องไม่เกิน 30 วินาที พักเดินไม่เกิน 40 วินาที การทดสอบสมรรถภาพร่างกายจะใช้เครื่องไมโครเกต ซึ่งมีความแม่นยำมากกว่าการจับเวลา เป็นมาตรฐานเดียวกับที่ AFC และ ฟีฟ่าใช้
การรักษาสมรรถภาพร่างกายเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น ผู้ตัดสินทุกคนจึงต้องเพิ่มความแข็งแกร่งด้วยการเข้าฟิตเนส ว่ายน้ำ และวิ่ง บางคนอาจจะต้องวิ่งถึงวันละ 4 กิโลเมตร เพื่อรักษาร่างกายพร้อมสำหรับการทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินได้นานที่สุด เพราะฟุตบอลลีกของเมืองไทย มีจังหวะบอลที่เล่นเร็วขึ้น
แม้ค่าตอบแทนในการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินไทยจะไม่มากเท่าหลายชาติในย่านอาเซียน แต่ตอนนี้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยพยายามยกระดับขึ้นมา เฉลี่ยนัดละกว่า 10,000 บาท หากลงทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินที่ 1 ในเกมโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันปัญหาการรับสินบน หรือรับค่าจ้างในการล้มบอล และสร้างแรงจูงใจในการทำหน้าที่ ในอนาคตสมาคมฟุตบอลมีนโยบายเพิ่มค่าจ้างให้ผู้ตัดสิน และหากผู้ตัดสินไทยอยู่ในระดับที่ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ไม่มีข้อครหา ฟุตบอลโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีกอาจไม่จำเป็นต้องใช้ผู้ตัดสินจากต่างชาติในนัดที่สำคัญเหมือนในทุกวันนี้