แผ่นดินไหวครั้งที่ 2 ซ้ำเติมความเสียหายในเนปาล
แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวครั้งที่ 2 ในประเทศเนปาลวานนี้ (12 พ.ค.2558) ส่งผลกระทบถึงเขตปกครองตนเองทิเบตของจีน โดยเกิดดินถล่ม 2 ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 3 คน ส่วนที่เนปาล อาคารหลายหลังพังถล่มลงมา ซึ่งก่อนหน้านีอาคารเหล่านี้ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.8 เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2558
สำหรับแผ่นดินไหวขนาด 7.3 ครั้งนี้ รับรู้ได้ไกลถึงประเทศอินเดีย, บังคลาเทศและทิเบต โดยที่เนปาลมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 คน, อินเดีย 17 คนและทิเบต 1 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่โครงการอาหารโลกขึ้นเฮลิคอปเตอร์สำรวจความเสียหายภายหลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งที่ 2 พร้อมตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่ที่ทำงานบริเวณศูนย์กลางแผ่นดินไหวปลอดภัยหรือไม่และส่งผลกระทบกับการทำงานหรือไม่
โฆษกรัฐบาลเนปาลเปิดเผยว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดมี 31 เขตจากทั้งหมด 75 เขต ขณะที่นายซูซิล โคอิราลา นายกรัฐมนตรีเนปาล เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นการฉุกเฉินเพื่อหารือเกี่ยวกับแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด พร้อมเรียกร้องให้ชาวเนปาลกล้าหาญและอดทนในการเผชิญภัยพิบัติ อีกทั้งยังขอให้อาสาสมัครทั้งของเนปาลและนานาชาติที่ให้ความช่วยเหลือตั้งแต่แผ่นดินไหวครั้งแรก ให้ความช่วยเหลือเนปาลต่อไป
นางคาร์เมน โซลานา ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวและภูเขาไฟ มหาวิทยาลัยพอร์ตสเม้าธ์ (Portsmouth) ประเทศอังกฤษ ให้ความเห็นว่าเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นครั้งที่ 2 ในเนปาล เป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ที่ต่อเนื่องจากแผ่นดินไหวครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 เม.ย.2558 ทั้งนี้ได้ก่อให้เกิดแรงกดดันเพิ่มมากขึ้นบนรอยเลื่อนอีกรอยหนึ่งและทำให้เกิดเคลื่อนตัวได้ง่าย ซึ่งหากเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่แล้ว มักจะเกิดแผ่นดินไหวตามมาอีกและบางครั้งอาจมีความรุนแรงเท่าๆกับครั้งแรก
ขณะที่นักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆของอังกฤษให้ความเห็นว่า แผ่นดินไหวทั้ง 2 ครั้งในเนปาล เกิดขึ้นบนรอยเลื่อนแผ่นเดียวกัน ซึ่งเป็นจุดที่แผ่นเปลือกโลกอินเดียกับยูเรเซียมาบรรจบและแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในระดับตื้น จึงเกิดแรงสั่นไหวมากกว่าแผ่นดินไหวที่เกิดในระดับลึกจากพื้นดิน
ทั้งนี้นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวครั้งแรก องค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็น เรียกร้องให้นานาชาติบริจาคเงินช่วยเหลือเนปาล โดยระบุว่าต้องการเงิน 423 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 14,000 ล้านบาท แต่จนถึงขณะนี้ได้รับเงินบริจาคเพียงร้อยละ 13 เท่านั้น