เช้ามืดวันที่ 25 ก.ย. ชาวอิสราเอลในกรุงเทลอาวีฟ ถูกปลุกด้วยเสียงสัญญาณเตือนภัย หลังจากกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ยิงจรวดพุ่งเป้าเมืองหลวงครั้งแรก ด้านกองทัพอิสราเอลส่งสัญญาณอาจจะมีการบุกภาคพื้นดินในเลบานอน สร้างความวิตกถึงการสู้รบกับกลุ่มเฮซบอลลาห์ที่อาจขยายวงกว้าง
ข่าวคราวเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งภายในของเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา ได้รับความสนใจอีกครั้งวานนี้ หลังองค์การสหประชาชาติเปิดเผยรายงานชี้ว่าต่างชาติมีส่วนช่วยเหลือรัฐบาลทหารเมียนมาเข้าถึงอาวุธอย่างต่อเนื่อง รวมถึงไทยเองด้วย มุมที่น่าสนใจมีทั้งแง่ดีที่ยอดจากนำเข้ายุทโธปกรณ์ของรัฐบาลทหารเมียนมาลดลงถึง 1 ใน 3 จากปีก่อนหน้า แต่เรื่องการนำเข้าอาวุธจากเพื่อนบ้านอาเซียน ตัวรายงานใช้คำว่าเป็นการเอื้อให้รัฐบาลทหารเมียนมาก่ออาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ซึ่งนอกจากไทยยังมี อีก 6 ประเทศด้วยกัน
ความเคลื่อนไหวในเมียนมาช่วงนี้ที่น่าสนใจคือ การเยือนเมียนมาของ "โนลีน เฮย์เซอร์" ทูตพิเศษยูเอ็น ซึ่งเธอเข้าพบ “มิน อ่อง หล่าย” โดยขอให้หยุดดำเนินคดีกับนักโทษการเมือง และอีกประเด็นคือ การที่เมียนมาออกมาตอบโต้อาเซียน กรณีอาเซียนมีข้อเสนอห้ามผู้แทนเมียนมาเข้าร่วมประชุมในกรอบภูมิภาค…"สุภลักษณ์ กาญจนขุนดี" สื่อมวลชนอาวุโส มองว่าครั้งนี้เมียนมาแสดงท่าทีที่ก้าวร้าวกับอาเซียนอย่างมาก พร้อมบอกโลกว่า ยูเอ็นกำลัง "ง้อ" เมียนมา แต่ที่น่าสนใจคือการที่ "เฮย์เซอร์" มอบกฎบัตรการอยู่ร่วมกันของชาวโลกแก่เมียนมา!