สหพันธ์ผู้บริโภค จี้ กทค.ยกเลิก
เครือข่าย สหพันธ์องค์กรผู้บริโภคจากทั่วประเทศ เรียกร้องบอร์ดกทค.ทบทวน การกำหนดอายุระบบเติมเงิน เพราะเห็นว่าเป็นสิทธิของผู้บริโภค ที่ยังมีเงินเหลือในระบบ จึงยังใช้บริการต่อได้ โดยเอกชนไม่ควรกำหนดระยะเวลาวันหมดอายุในระบบเติมเงิน ซึ่งบอร์ดสั่งห้ามไปแล้วและมีผลตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคมปีที่ผ่านมา แต่เมื่อต้นปี บอร์ดกลับมีมติอนุมัติให้เอกชนกำหนดวันหมดอายุได้ใหม่ 30
นางบุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค ระบุว่า ที่ผ่านมา กสทช.ประกาศเองว่าจะรักษาสิทธิผู้บริโภคให้ผู้บริโภค และที่ผ่านมาก็เป็นฝ่ายออกประกาศห้ามกำหนดวันหมดอายุในระบบเติมเงิน แต่ตอนนี้จะมาเปลี่ยนแปลงมติให้กำหนดได้ โดยไม่มีการชี้แจงเหตุผลให้ผู้บริโภคเข้าใจแบบชัดเจนเกี่ยวกับความจำเป็นในการให้เอกชนกำหนดวันหมดอายุ พร้อมขอให้เปิดเวทีรับฟังความเห็นจากหลายฝ่ายก่อนที่จะออกเป็นมติ
พร้อมเห็นว่า การกำหนดมตินี้ เปรียบเสมือนการเอื้อผู้ประกอบ และเป็นผลเสียต่อผู้บริโภค เพราะเป็นเหตุผลที่ทำให้เครือข่ายทั้งเอไอเอส ดีแทค และทรู เรียกเก็บค่าบริหารจัดการเลขหมายเดือนละ 30 บาทจากผู้บริโภค ซี่งเห็นว่าแพงเกินไป จึงขอให้ทบทวนประเด็นนี้ด้วย
นายแพทย์ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโคภคในกิจการโทรคมนาคม รบุว่า สำนักงานกสทช.รับเรื่องไว้แล้ว แต่ต้องดูว่าจะเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ดกทค.พิจารณาเมื่อใด แต่ส่วนตัวเห็นว่า มีกฎหมายห้ามผู้ประกอบกิจการกำหนดวันหมดอายุในบัตรเติมเงินอยู่แล้ว แต่การพิจารณาให้ผู้ประกอบการอยู่รอดได้ด้วย โดยเหตุผลที่ทั้ง 3บริษัทระบุ คือ เป็นต้นทุนในการประกอบกิจการ ซึ่งเรื่องนี้อาจต้องทบทวนกันอีกครั้ง และอาจต้องทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความเห็นผู้บริโภค เพราะที่ผ่านมาก็ยอมรับว่าไม่เคยฟังเสียงเรียกร้องของผู้บริโภค