ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาค้ามนุษย์เพิ่มอีก 10 คน
วันนี้ (13 พ.ค.2558) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าชุดคลี่คลายคดีเครือข่ายค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา นำตัวนายสมรรถชัย อำดำ ฉายาแรมโบ้ คนสนิทนายปัจจุบัน อังโชติพันธ์ หรือโกโต้ง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล นายสถิต แหมถิ่น เครือข่ายค้ามนุษย์ใน จ.สตูล นายปิยะวัฒน์ พงษ์ไทย หรือโกหย่ง เครือข่ายนายสุวรรณ แสงทอง หรือโกหนุ่ย นักธุรกิจประมง เครือข่ายค้ามนุษย์ใน จ.ระนอง ที่เข้ามอบตัวก่อนหน้านี้ นายมูปะกาศ แขกพงษ์ เครือข่ายใน ต.ปาดังเบซาร์ มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดย 2 คนแรก ถูกบุกจับพื้นที่ จ.สตูล เมื่อเช้านี้ ส่วนนายสุวรรณ ติดต่อเข้ามอบตัวกับตำรวจภูธรเมืองระนองเมื่อ 2 วันก่อน
ขณะที่เมื่อเช้านี้ (13 พ.ค.2558) ศาลจังหวัดนาทวีอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 10 คน รวมเป็น 61 หมายจับ ในจำนวนนั้นคือ นายมาเลย์ โต๊ะดิน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปูยู นายโปเซี่ย อังโชติพันธ์ นายวุฒิ วุฒิประดิษฐ์ และนายอนัส หะยีมะแซ ทั้ง 4 คน ล้วนเป็นขบวนการมนุษย์ชาวโรฮิงญาเครือข่ายโกโต้ง และในวันนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายจับผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีรวม 39 หมายจับ ให้แก่ตำรวจมาเลเซียในระหว่างร่วมประชุมทวิภาคีระหว่างตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซีย ที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อช่วยติดตาม
ส่วนการกลับขึ้นไปตรวจสอบหลุมฝั่งศพจำนวน 4 หลุม ใกล้กับแคมป์ที่พักขนาดใหญ่บนเทือกเขาแก้ว อ.สะเดา คาดว่าสามารถบรรจุคนได้เกือบ 2,000 คน ที่ถูกค้นพบเมื่อวานนี้ ล่าสุดพบศพแล้ว จำนวน 3 ศพ
ด้านศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า เตรียมที่จะสรุปผลการปฏิบัติในคดีนี้ส่งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติหลังปฏิบัติภารกิจปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์มาแล้ว 10 วัน ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ให้ปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ให้ได้ใน 10 วัน โดยจะนำเสนอผลการปฏิบัติตั้งแต่วันเริ่มพบแหล่งพักชั่วคราวพร้อมหลุมฝังศพในจุดแรกเมื่อ 1 พฤษภาคม จนกระทั่งออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาล่าสุด ส่วนจะพิจารณาให้ทำต่ออย่างไรหรือไม่นั้นเป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชา
ขณะที่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดียในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ที่กรุงเทพมหานคร โดยรัฐบาลไทยจะเชิญเจ้าหน้าที่อาวุโสจากประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด 15 ประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย กัมพูชา เมียนมา เวียดนาม และบังคลาเทศ รวมทั้งเชิญประเทศผู้สังเกตการณ์ เช่น สหรัฐฯ ตลอดจนผู้แทนองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง
การประชุมครั้งนี้จะเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลและข่าวกรองเกี่ยวกับสถานการณ์การโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติทางทะเลและอาจจะมีการบังคับใช้กฎหมายร่วมกัน รวมถึงร่วมกันรณรงค์เผยแพร่ข้อมูลเพื่อป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์ของขบวนการค้ามนุษย์