ปชช.หวั่นหากรัฐฯสร้างเขื่อนแก้ปัญหาน้ำกัดเซาะหาดปัตตานี ชี้ทำลายระบบนิเวศน์
การสำรวจของนักวิชาการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พบว่า จ.ปัตตานี มีพื้นที่ชายหาด ที่ถูกกัดเซาะ เป็นระยะทางยาวถึง 116 กิโลเมตร จึงมีความกังวลจากชาวบ้านว่า หากรัฐก่อสร้างโครงสร้างแข็งเพื่อแก้ปัญหา อาจส่งผลต่อระบบนิเวศน์ในระยะยาว
คลื่นลมที่มีกำลังแรงบริเวณริมหาดตะโล๊ะกะโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ทำให้เกิดการกัดเซาะอย่างรุนแรง เช่นเดียวกับพื้นที่ติดริมทะเล ระยะทางยาว 116 กิโลเมตร ใน 6 อำเภอของจ.ปัตตานี ที่กำลังเผชิญกับปัญหาการกัดเซาะอย่างรุนแรง ทำให้ชาวบ้าน และนักวิชาการ หารือร่วมกันในการสัมมนาเรื่องโครงการศึกษาสิ่งแวดล้อม สำรวจ ออกแบบ และป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง
โดยที่ประชุมเสนอแนวทางแก้ปัญหาการกัดเซาะใน 3 แนวทาง คือ การก่อสร้างเขื่อนกั้นคลื่น การใช้วิธีเติมทรายชายหาด และการก่อสร้างหัวหาด และเติมทราย ชายหาด แต่ชาวบ้านหลายคน เกรงว่า แนวทางแก้ปัญหาเหล่านี้ อาจไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการแก้ปัญหา ด้วยโครงสร้างแข็ง อย่างการก่อสร้างเขื่อนกั้นคลื่นที่อาจจะส่งผลกระทบในระยะยาว