อีกไม่ถึง 8 วัน การพูดคุยสันติภาพรอบสอง ระหว่างตัวแทนของสภาความมั่นคงแห่งชาติ และตัวแทนของกลุ่มขบวนการรวม 9 กลุ่ม จะมีการพูดคุยรอบสอง ในประเทศมาเลเซีย แต่ดูเหมือนว่าปัญหาภายในของไทยโดยเฉพาะความคิดขัดแย้งของหลายฝ่ายทั้งในเรื่องการเสนอเข้าชื่อของสส. และสว. เพื่อแก้รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา พระราชบัญญัติการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท หรือความเห็นต่างของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน หากรัฐจะทำข้อตกลงให้มีการจัดตั้ง ปัตตานีมหานคร ทำให้คนในพื้นที่หลายคน กังวลว่าปัญหาภายในเหล่านี้จะกระทบต่อการพูดคุยสันติภาพ
เช่นเดียวกับภาคประสังคม ที่มองว่า หากมีการปรับเปลี่ยนภายในรัฐบาล อาจส่งผลต่อคณะเจรจาฝ่ายไทย ที่ฝ่ายกลุ่มขบวนการให้ความเชื่อถือ จึงควรนำวาระของการพูดคุยสันติภาพ บรรจุเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้ทุกภาคส่วนช่วยกันคิด และวางกรอบการเจรจา รวมถึงตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการเรื่องนี้ซึ่งจะต้องไม่ปรับเปลี่ยน แม้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
แม้ว่าหลายคนจะยังไม่มั่นใจว่า การพูดคุยสันติภาพจะยุติความรุนแรงได้หรือไม่ แต่ตัวแทนสภาประชาสังคมชายแดนใต้ มองว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่เริ่มมีความหวังในการใช้ยาแขนงนี้แก้ปัญหาภาคใต้ และอยากให้ทุกภาคส่วนที่คิดต่าง โดยเฉพาะพรรคฝ่ายค้านให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพูดคุยสันติภาพ และเปิดโอกาสให้คณะผู้เจรจาได้ทำงาน เพราะเห็นว่า ไม่มีความขัดแย้งใดที่จะจบลงได้หากทั้งสองฝ่ายไม่หันหน้าเข้าหากัน