เคาะแล้ว...12 ช่องดิจิตอลสาธารณะ คาดให้ใบอนุญาตเดือน มิ.ย. 2556
มีมติ 3 ต่อ 2 เห็นชอบการกำหนดช่องรายการทั้ง 12 ช่องสาธารณะ 3 ช่องยกให้ ช่อง5, เอ็นบีที และไทยพีบีเอส
ภัทราพร ตั๊นงาม ผู้สื่อข่าวืไทยพีบีเอส รายงานเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่โรงแรมเซ็นจูรี่ กทม. มีการประชุมเชิงปฏิบัติการณ์ "การปฏิรูปสื่อในทีวีดิจิตอลสาธารณะ:รูปแบบที่ควรจะเป็น" โดยมี นางสาว สุภิญญา กลางณรงค์ และ นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กรรมการ กสทช. ร่วมเวที ซึ่งที่ประชุมซึ่งเกือบทั้งหมด เป็นอาจารย์สอนระดับมหาวิทยาลัย จากสถาบันต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ร่วมด้วย ซึ่งที่ประชุมได้ร่วมกันทำข้อเสนอ เพื่อให้กสทช.ทบทวน ใน 7 ประเด็น ได้แก่
1. คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) ต้องกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ประกอบการรายเดิม (ช่อง 5 ,เอ็นบีที และไทยพีบีเอส ) ปรับตัวให้สอดคล้องกับคุณสมบัติของการเป็นผู้ประกอบกิจการสาธารณะ มิใช่ได้รับสิทธิในการออกอากาศในระบบดิจิตอลโดยอัตโนมัติ มิเช่นนั้นจะส่งผลต่อการแข่งขันเสรีและเป็นธรรม ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ข้อ
2. กสท. ต้องสร้างเกณฑ์การตรวจสอบ “หน้าที่” และ “ความจำเป็น” ของผู้ประกอบการรายเดิม และหน่วยงานรัฐและองค์กรต่างๆ ที่ขอเข้ามาจัดสรรคลื่นความถี่โดยคำนึงถึงโครงสร้างความเป็นเจ้าของ
3. กสท.ต้องจัดทำคำนิยาม “บริการสาธารณะ” และเนื้อหารายการ รวมทั้งพันธกิจสำคัญในแต่ละช่องรายการให้ชัดเจน และขอให้ทบทวนการจัดกลุ่มตามวัตถุประสงค์ของทั้ง 12 ช่อง
4. กสท.ต้องคำนึงถึงความเป็นเจ้าของสำหรับภาคประชาชนเพื่อใช้คลื่นความถี่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ในทุกพื้นที่ของการประกอบกิจการ
5. กสท.ต้องกำหนดให้แต่ละช่องเสนอโครงสร้างการบริหารที่สะท้อนความเป็นอิสระจากภาคการเมืองและภาคธุรกิจ และมีแผนการจัดสรรและที่มาของงบประมาณที่ชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้
6. กสท.ต้องมีเกณฑ์การคัดเลือกคุณสมบัติผู้ได้รับการจัดสรรคลื่นความถี่ช่องบริการสาธารณะ (Beauty Contest) ที่ชัดเจน และผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณะ เนื่องจากเป็นแนวนโยบายที่มีผลกระทบต่อสาธารณะ
7. กสท.ควรชะลอการพิจารณาการจัดสรรคลื่นความถี่บริการสาธารณะ 12 ช่อง จนกว่าจะสำรวจและรับความเห็นจากทุกภาคส่วนและศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน เพื่อนำมาเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ในการใช้ดุลพินิจของ กสท.
ทั้งนี้ กลุ่มอาจารย์ -นักวิชาการ ที่ร่วมกันทำข้อเสนอดังกล่าว ประกอบด้วย
รศ.ดร.อุบลรัตน์ ศิริยุวศักดิ์ นักวิชาการด้านสื่อ
รศ.ดร.ปิยกุล เลาวัณย์ศิริ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ ม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
ผศ.ดร.สุภาพร โพธิ์แก้ว คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ
ผศ.ดร.ทัณฑกานต์ ดวงรัตน์ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์
รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ
ผศ.นพนันท์ วรรณเทพสกุล คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬา
อ.อังคณา พรมรักษา ม.มหาสารคาม
อ.วนิดา วินิจจะกูล ม.เนชั่น
อ.สมัชชา นิลปัทม์ มอ.ปัตตานี
อ.เวทิต ทองจันทร์ คณะนิเทศศาสตร์ ม.สยาม
อ.มรรยาท อัครจันทรโชติ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ
อ.วรพจน์ วงศ์กิจรุ่งเรือง นักวิชาการสื่อ
อ.ปัณณพร ไพบูลย์วัฒนกิจ ม.แม่โจ้
สำหรับการประชุม คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง(กสท.) กสทช. วันนี้ มีมติ 3 ต่อ 2 เห็นชอบการกำหนดช่องรายการทั้ง 12 ช่องสาธารณะ โดย 3 ช่องแรก เป็นช่องของผู้ประกอบการรายเดิม คือ ไทยพีบีเอส, เอ็นบีที และช่อง 5 ส่วนอีก 9 ช่อง จะเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ทั้งหมด ซึ่งต้องเป็นหน่วยราชการ กระทรวง ทบวน กรม / องค์กร ไม่แสวงหากำไร หรือ สถาบันการศึกษาที่มาขอใบอนุญาตได้เท่านั้น ซึ่งใบอนุญาตที่แต่ละรายจะได้รับในครั้งนี้ จะมีเวลาไม่เกิน 4 ปี ทาง กสทช.คาดว่าจะประกาศ เชิญชวนผู้ที่สนใจ ยื่นขอรับใบอนุญาตได้ในช่วงเดือนเมษายน หรือ พฤษภาคมนี้ และออกใบอนุญาตได้ในช่วงเดือนมิถุนายน
จากมติ 3 ต่อ 2 เสียงในวันนี้ ส่งผลให้ กลุ่มอาจารย์ชื่อดัง จากสถาบันการศึกษาต่างๆ เตรียมล่ารายชื่อ เพื่อยื่นให้ กสทช. ทบทวน เนื่องจากเห็นว่า การออกใบอนุญาตให้กลุ่มช่องสาธารณะ ผิดเจตนารมย์ของการปฏิรูปสื่อ และถือว่า กสทช.ล้มเหลวในการจัดทำหลักเกณฑ์การให้ใบอนุญาต เพราะหลายประเด็นไม่มีความชัดเจน