วันนี้ ( 7 เม.ย.2568) เว็บไซต์ “ฮั่วเซ่งเฮง” วิเคราะห์ ราคาทองคำนิวยอร์กร่วง 2.76% ปิดที่ 3,035.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังนักลงทุนเทขายทองเพื่อลดความเสี่ยงจากตลาดหุ้นที่ร่วงหนัก 2 วันติดสาเหตุหลักมาจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนทวีความรุนแรง จีนประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ 34% ตอบโต้ภาษีชุดใหม่ของทรัมป์แม้ราคาทองผันผวน แต่ยังเพิ่มขึ้นกว่า 15.3% ตั้งแต่ต้นปี จากแรงซื้อของธนาคารกลางและความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ชี้ภาษีทรัมป์อาจกระทบเศรษฐกิจแรงกว่าคาด ทั้งเงินเฟ้อและการเติบโตที่ชะลอลงดัชนีดอลลาร์แข็งค่า 0.7% ทำให้ทองแพงขึ้นในสายตานักลงทุนต่างชาติข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ เดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นเกินคาด เป็น 228,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานขยับขึ้นเป็น 4.2%ตลาดคาดเฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ย กดดันราคาทอง เพราะทองไม่มีดอกเบี้ยตอบแทน
วิเคราะห์ราคาทองแม้ว่าราคาทองเช้านี้จะย่อตัวลงต่อจากแนวโน้มในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ก็สามารถฟื้นตัวขึ้นจากแนวรับสำคัญที่ $2,980 ขึ้นมาได้ พร้อมกับแรงหนุนจากปัจจัยเชิงเทคนิค ในสัปดาห์นี้ราคาจึงอาจมีแนวโน้มฟื้นตัวจากแนวรับสำคัญดังกล่าว
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่าหลายประเทศได้ส่งสัญญาณตอบโต้คืนเช่นกัน เช่น สื่อของรัฐบาลจีน โพสต์ข้อความ หากสหรัฐฯ ตั้งใจทำลายผลประโยชน์ของจีน จะตอบโต้อย่างเด็ดขาด
เช่นเดียวกับทางด้านคลอเดีย เชนบาม ประธานาธิบดีเม็กซิโก ประกาศ จะใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้แบบครอบคลุม ในวันที่ 3 เม.ย. ปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดการปรับฐานอย่างมีนัยสำคัญ นักลงทุนบางส่วนจึงได้นำเงินลงทุนมาพักไว้ในสินทรัพย์ปลอดภัยโดยเฉพาะทองคำ และรวมไปถึงพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกันปัจจัยบวกด้านอื่น ๆ ที่สนับสนุนทองคำในระยะยาวยังคงแข็งแกร่ง ทั้งการเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางทั่วโลก รวมถึงการเข้าซื้อทองคำของกองทุน ETF ทองคำขนาดใหญ่ในปีนี้
โดยเฉพาะ SPDR Gold Shares ที่กลับมาเข้าซื้อต่อเนื่องในปี 2568 รวมแล้วมากถึง +59.42 ตัน รวมถึงความไม่แน่นอนทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ตะวันออกกลางที่ยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ล่าสุด ด้านโดนัลด์ ทรัมป์ ยังได้ขู่ทางอิหร่านว่าจะทำการทิ้งระเบิดและใช้มาตรการภาษีรอง (Secondary tariff) หากอิหร่านไม่ยอมบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์
อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของทองคำในปีนี้ถือว่าปรับตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วแบบไม่มีสลับพักฐาน จึงอาจทำให้มีข้อจำกัดในการปรับขึ้นต่อ แต่ยังเห็นว่าราคาทองคำยังเดินหน้าสู่ทิศทางขาขึ้น เนื่องจากปัจจัยบวกที่กล่าวมาข้างต้นยังคงแข็งแกร่ง
ราคาทองคำกรอบเช้าบวก 150 บาท ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 49,850 บาท และราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 49,750 บาท ราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 50,650 บาท และราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 48,860.68 บาท ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 3,051 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ อัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับ 34.53 บาทต่อดอลลาร์
ราคาทองรูปพรรณรวมค่ากำเหน็จ 800 บาท มีราคาดังนี้ ทองครึ่งสลึง ราคาขาย 7,031 บาท ทอง 1 สลึง ราคาขาย 13,263 บาท ทอง 2 สลึง/50 สตางค์ ราคาขาย 25,725บาท และทอง 1 บาท ราคาขาย 50,650 บาท ทองคำหนัก 2 บาท ขายออก 101,300 บาท ทองคำหนัก 5 บาท ขาย 253,250 บาท ภาพรวมราคาทองปี 2568 บวก 7,450 บาท เดือนม.ค. ทองคำบวก 2,050 เดือนก.พ. บวก 1,850 และเดือน มี.ค. บวก 3,750 บาท, เม.ย. ลบ 200 บาท
อ่านข่าว:
ราคาทองคำผันผวนหนัก 5 เม.ย.เปิดตลาดปรับลง 500 บาท
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
- ราคาทองวันนี้
- ราคาทองวันนี้ 1 สลึง ขาย
- ราคาทองวันนี้ 1 สลึง
- ราคาทองวันนี้ เยาวราช
- ข่าวราคาทองวันนี้
- สรุปราคาทองวันนี้
- เช็คราคาทองวันนี้ล่าสุด
- ราคาทองคำ
- ราคาทองโลก
- ราคาทองแท่ง
- ราคาทองรูปพรรณ
- ราคาทองผันผวน
- ราคาทองคำแท่ง
- ราคาทองคำโลก
- ราคาทองคำวันนี้
- ราคาทองรูปพรรณวันนี้
- ราคาทองคำตลาดโลก
- ราคาทองปี 2568
- ข่าวราคาทองล่าสุด
- ข่าวเศรษฐกิจวันนี้