วิเคราะห์"กังนัมสไตล์"สร้างปรากฏการณ์เพลงโลก

ได้แลกเปลี่ยนมุมมองกันอย่างสนุก ว่าทำไมท่าเต้นพื้นๆ"คนควบม้าควงบ่วงบาศก์แบบกังนัม"ที่มาพร้อมนักร้องชายที่ไม่ได้หล่อเหลา ถึงโด่งดังไปทั่วโลก บนเวทีเสวนาของโครงการเกาหลีศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา ร่วมกันพลิกหามุมมองที่ซ่อนอยู่ภายใต้ท่าเต้น และมิวสิควีดีโอเพลงนี้

ถูกนำมาล้อ หรือ คัฟเวอร์โปรโมตการท่องเที่ยวของประเทศมาเลเซีย ทั้งในเพลง KL Style  และปีนัง Style นี่เป็นอีกประเทศที่เข้าชมมิวสิควีดีโอเพลงกังนัมสไตล์มากที่สุดเป็นอันดับ 6  นอกจากนี้ยังมีประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และไทย ที่ติดชาร์ตอันดับต้น ๆ ไม่แพ้กัน

ท่าเต้นควบม้า ที่ง่ายจนใครก็เลียนแบบได้ ยิ่งมาพร้อมจังหวะสนุก ๆ กับเนื้อหาง่าย ๆ ที่พูดถึงย่านไฮโซในเกาหลี ก็เป็นปัจจัยส่งให้กังนัมไปไกลได้กว่าที่ K-pop วงอื่นเคยทำ โดยเฉพาะภาพลักษณ์แรปเปอร์วัย 34 ปี ปาร์ก แจ ซาง ให้คำนิยามไว้เองว่าเป็น " Dress classy and dance cheesy "  คือแต่งตัวดี ผิดกับท่าเต้นแย่ๆ หลุดโลก ในมุมมองของนักการตลาดเห็นว่าความสำเร็จ น่าจะมาจากความแปลกใหม่ที่ต่างจากวงเกาหลีทั่วไป เนื้อหาบางส่วนนำมาพูดคุยบนเวทีเสวนา กังนัมสไตล์ นัย ความหมาย และทำไมถึงเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก

การนำเรื่องชนชั้น มาล้อความเป็นอยู่ของตัวเองเพื่อสร้างความขบขันให้งานเพลง ขณะเดียวกันยังเสียดสีชนชั้นสูงไปในตัว เป็นแนวทางของเพลงไทยอย่าง"ดาวมหาลัย"ซึ่งไม่ต่างจากกังนัมสไตล์ ที่กระทบกระเทียบย่านไฮโซ ด้วยภาพของชายธรรมดาที่พยายามหรูหรา

ก่อนหน้านี้สื่อในตะวันตกออกมาวิจารณ์ว่าวงการเพลงเกาหลีกำลังอยู่ในช่วงขาลง เพราะซ้ำซากจำเจจนเกินไป จนมีเพลงกังนัมสไตล์ที่โด่งดังขึ้นมา น่าจะเป็นข้อสนัลบสนุนคำวิจารณ์ได้เป็นอย่างดี เพราะเค้ามาในภาพลักษณ์แปลกใหม่ที่เฉพาะตัว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีก็บอกว่ามาจาก 3 คำ คือ easy happy special

แม้หลายคนจะมองว่า กัมนังสไตล์ เป็นความพยายามที่จะนำเสนอความไร้รสนิยม ให้เป็นงานศิลปะ แต่หากท่าเต้น กังนัมสไตล์ กลับแฝงบางอย่างที่มากไปกว่าความขบขัน  ส่งผลให้กระแส K-Wave ระลอกนี้สามารถเบนความสนใจของสังคมโลกให้หันมามองเอเชียตะวันออกอย่างจับตา