นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก ในฐานะตัวแทนคณะดำเนินการต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารฝ่ายไทย เปิดเผยว่า การให้การด้วยวาจาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ จะอยู่ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์การยืนยันว่าคำขอของกัมพูชาไม่ใช่คำตีความแต่เป็นคำฟ้องคดีใหม่ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียว ดังนั้น ศาลโลกจึงไม่มีอำนาจตีความ
ขณะที่ไทยแสดงความคิดเห็นว่าพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตรไม่มีความเชื่อมโยงกับคดีปราสาทพระวิหาร เพราะเป็นเรื่องที่เกิดใหม่ภายหลังจากการขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียวของกัมพูชา
ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการใช้แผนที่คนละฉบับโดยกัมพูชาใช้แผนที่ 1 ต่อ 200,000 แต่ไทยใช้อนุสัญญาสยาม - ฝรั่งเศส ปี 1904 และสนธิสัญญาสยาม - ฝรั่งเศส 1907 โดยแผนที่ถือเป็นเครื่องมือแปรเป็นรูปภาพให้เห็นเป็นเส้นเขตแดน
ทั้งนี้ระหว่างการให้การต่อศาลโลก ตั้งแต่วันที่ 14 -19 เมษายน 2556 กระทรวงการต่างประเทศจะจัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสาร โดยจะจัดหาล่ามมืออาชีพ เพื่อช่วยในการแปลการให้การที่จะใช้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส ส่วนการถ่ายทอดสดการให้การในศาล กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ทางด้านเทคนิคที่จะมีการถ่ายทอดให้สาธารณชนได้รับทราบ