เกาหลีเหนือขู่เดินเครื่อง 
สำนักข่าว KCNA ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานตามคำพูดของโฆษกด้านพลังงานนิวเคลียร์ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ ว่าทางการเกาหลีเหนือ จะเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาด 5 เมกะวัตต์ รวมทั้งปรับแต่งอุปกรณ์ต่างๆภายในโรงงานนิวเคลียร์ยองเบียน ซึ่งรวมทั้งโรงเสริมสมรรถนะยูเรเนียมด้วย วัตถุประสงค์เพื่อเสริมศักยภาพของอาวุธนิวเคลียร์ ทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ และแก้ปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าอย่างรุนแรง
คำประกาศของเกาหลีเหนือมีขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 31 มี.ค. และเมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการกลางพรรคแรงงานและที่ประชุมสภาประชาชน ให้การรับรองแผนการเพิ่มขีดความสามารถทางเศรษฐกิจด้วยการเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านอาวุธนิวเคลียร์ และนับเป็นการแสดงท่าทีแข็งกร้าวกรณีล่าสุดของเกาหลีเหนือ ที่สร้างความกังวลใจมากกว่าการประกาศภาวะสงคราม เพราะการแถลงของโฆษกด้านพลังงานนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ที่ว่าจะมีการปรับแต่งภายในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ อาจแสดงนัยยะถึงการยกระดับการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมคุณภาพสูงสำหรับผลิตอาวุธนิวเคลียร์
หลังรายงานข่าวดังกล่าว โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ออกมาระบุว่า หากรายงานข่าวของเกาหลีเหนือเป็นเรื่องจริง ก็น่าเสียใจอย่างยิ่ง พร้อมเรียกร้องให้เกาหลีเหนือยึดถือในข้อตกลงยุติการแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี รวมทั้งประกาศจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
เช่นเดียวกับทั้งจีนและญี่ปุ่น ที่ต่างออกมาแสดงความกังวลต่อคำประกาศของเกาหลีเหนือ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ระบุว่ารัฐบาลจีนไม่เห็นด้วยกับคำประกาศของเกาหลีเหนือ และบอกว่าขณะนี้สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีมีความซับซ้อนและอ่อนไหวอย่างยิ่ง จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอดทนอดกลั้น และหันหน้าเจรจากันโดยเร็ว เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม
ด้านเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุว่าหากเกาหลีเหนือเริ่มเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์อีกครั้งจริง ก็นับเป็นการกระทำที่ยั่วยุอย่างร้ายแรง และละเมิดข้อตกลง 6 ฝ่าย รวมทั้งมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งญี่ปุ่นจะร่วมมือกับสหรัฐ เกาหลีใต้ รัสเซีย และจีน เพื่อให้มั่นใจว่าเกาหลีเหนือยังคงยึดมั่นในข้อตกลงระหว่างประเทศ
จนถึงขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเกาหลีเหนือจะสามารถเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ได้อีกครั้งเมื่อใด นอกจากนี้ปล่องระบายความร้อนของเตาปฏิกรณ์ในโรงงานนิวเคลียร์ยองเบียน ก็ถูกทำลายทิ้งไปตั้งแต่ปี 2551 หลังปิดเตาปฏิกรณ์ไปตั้งแต่ปี 2550 ตามข้อตกลงการเจรจา 6 ฝ่าย เพื่อแก้ไขวิกฤตนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี และกับความช่วยเหลือด้านต่างๆ
แต่เกาหลีเหนือกลับเริ่มเสริมสมรรถนะยูเรเนียมคุณภาพต่ำที่โรงงานดังกล่าวอีกครั้งในปี 2553 โดยอ้างเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า และมีรายงานการก่อสร้างใกล้ๆกับโรงงานนิวเคลียร์ยองเบียน แต่ไม่ชัดเจนว่าเป็นปล่องระบายความร้อนหรือไม่