ผู้ค้าระบุ
ข้าวเหนียวสีเหลืองขุ่นบรรจุถุงจากโครงการรับจำนำข้าว ภายใต้ตราสินค้าถูกใจของกระทรวงพาณิชย์ เทียบกับสีของข้าวเหนียวบรรจุถุงที่ขายตามตลาดทั่วไป คือความแตกต่างที่ชัดเจน และเมื่อเปิดถุงยังมีกลิ่นสาบ ซึ่งณรรศรา ศรีบุรมณ์ เจ้าของร้านค้าปลีกที่เข้าร่วมโครงการร้านถูกใจให้ข้อมูลว่า ข้าวบรรจุถุงที่ส่งให้แต่ละครั้งจะมีสีที่ต่างกัน แม้ลูกค้าจะพอใจกับราคาข้าวที่ถูก แต่ไม่พอใจในคุณภาพ
ขณะที่สอ พงษ์เมือง และกิตติ แซ่ตั้ง พ่อค้าข้าวบอกว่า ข้าวปีนี้คุณภาพลดลงจากปีที่ผ่านมา มีกลิ่นสาบและเสียง่าย จึงจำเป็นต้องเลือกซื้อข้าวจากผู้ขายไว้ใจได้ เพื่อให้ได้ข้าวที่มีคุณภาพจำหน่ายให้กับลูกค้า
ข้อมูลนี้อาจสอดคล้องกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ถึงปัญหาคุณภาพข้าว และมีการระบุจากนักวิชาการว่า ประชาชนกำลังบริโภคข้าวด้อยคุณภาพ มีเชื้อราปะปน ไม่ว่าจะเป็นข้าวจากโครงการลดค่าครองชีพของรัฐหรือของเอกชน เนื่องจากกระบวนการเก็บข้าวค้างในสต็อกนาน เพราะระบายข้าวไม่ได้
เฟซบุ๊คส่วนตัวของนายแพทย์บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล อดีตกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ ระบุห่วงว่า หากประชาชนบริโภคข้าวเก่า อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพ สุ่มเสี่ยงรับสารอัลฟราท็อกซินจากเชื้อรา ที่มักพบในธัญพืชที่เก็บรักษาไม่ได้คุณภาพ ยังไม่รวมสารพิษตกค้างจากการใช้สารเคมีรมยาข้าวและรักษาคุณภาพข้าว ซึ่งเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง
แต่บุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.กระทรวงพาณิชย์ ยืนยันในคุณภาพข้าวบรรจุถุงขาย โดยเฉพาะข้าวบรรจุถุงในโครงการธงฟ้าหรือถูกใจ ใช้ข้าวใหม่ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา แต่ก็กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบคุณภาพ รวมทั้งการเก็บรักษา
ขณะที่ สุเมธ เหล่าโมราพร ผู้บริหาร บ.ซี.พี.อินเตอร์เทรด ผู้ประกอบการค้าข้าว บอกว่า คุณภาพข้าวจะดูจากสีหรือกลิ่นอาจไม่เพียงพอ แต่ก็ยอมรับว่าไม่ควรเก็บข้าวนานเกินไป ควรระบายออกทุก 3 เดือนหรือ 6 เดือน เพื่อรักษาคุณภาพข้าว
ข้อมูลวงการค้าข้าว ระบุว่า ขณะนี้ข้าวในโกดังรัฐบาลส่วนใหญ่เป็นข้าวเก่าเสื่อมคุณภาพเพราะผู้ตรวจสอบไม่เข้มงวดในการตรวจสอบและยอมให้โรงสีบางแห่งนำข้าวเก่าหรือข้าวคุณภาพต่ำมาส่งมอบ ทำให้เอกชนไม่สนใจประมูลข้าวในสต็อกรัฐบาล
ข้าวเก่าที่ไม่สามารถระบายได้จะถูกนำมาจำหน่ายในประเทศ ส่วนข้าวใหม่จะขายให้เอกชนบางราย จึงมีความเห็นว่าต้องมีการตรวจสอบโกดังกลาง รวมถึงตรวจสอบตัวอย่างข้าวที่ขายทั้งตลาดทั่วไปและห้างสรรพสินค้า เพื่อป้องกันผลความเสียหายและเรียกความเชื่อมั่นคุณภาพข้าวไทยกลับคืนมา