วันนี้ (25 พ.ย.2567) ภายหลังศาลออกหมายจับนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช และแม่ โดยเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ควบคุมตัวแม่ของนายสามารถจากบ้านพักย่านราชเทวี มาสอบสวนที่ดีเอสไอ ถนนแจ้งวัฒนะ ในความผิดฐานฟอกเงิน-สมคบกันฟอกเงินคดีดิไอคอน
เปิดเส้นทางเงินโยง "สามารถ-แม่"
พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ว่า ภายหลังดีเอสไอได้รวบรวมพยานหลักฐานและสืบสวนเรื่องเส้นทางการเงิน ธุรกรรมทางการเงินมาอย่างต่อเนื่อง จึงพบว่าในกรณีที่ผู้เสียหายได้โอนเงินชำระเพื่อซื้อสินค้าหรือเปิดบิลเป็นผู้ตัวแทนจำหน่ายกับบัญชีธนาคารของบริษัทดิไอคอนฯ
จากนั้นพบเส้นทางการเงินในบัญชีของบริษัทฯ ได้โอนต่อมาที่นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือพอล ต่อมาพอลและนายกลด เศรษฐนันท์ หรือปีเตอร์ มีการโอนต่อมายังกลุ่มที่ถูกศาลออกหมายจับ คือ แม่ของนักการเมือง และนักการเมือง
สำหรับไทม์ไลน์ที่ดีเอสไอสืบสวนพบจากร่องรอยการทำธุรกรรมรับโอนเงินระหว่างนายพอลและนักการเมืองนั้น พบตั้งแต่ช่วงปี 2564 โดยในบัญชีธนาคารแม่ของนักการเมืองคนนี้ มียอดเงินรายได้รวมกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นการรับโอนเงินจากทางอื่น แต่ในส่วนที่รับโอนโดยตรงจากนายพอลมีประมาณ 2.5 ล้านบาท
อีกทั้งยังรับโอนจากปีเตอร์หลักหลายแสนบาท และหากแม่ของนักการเมืองคนนี้จะกล่าวอ้างว่าเงินหลายล้านบาทนี้เป็นเงินทำบุญหรือเงินใดนั้น ก็เป็นสิ่งที่สามารถให้การได้ ถือเป็นสิทธิ แต่ดีเอสไอก็จะต้องพิสูจน์ว่าเป็นเงินทำบุญจริงหรือไม่ และเหตุใดจึงเป็นเงินทำบุญทุกเดือน เพราะบางครั้งหลักแสนบาท บางครั้งหลายแสนบาท และยังเป็นไปตามวงรอบทุกเดือน จึงมองว่าพฤติการณ์ลักษณะนี้ไม่อาจใช่เงินทำบุญ
ส่วนสาเหตุที่เข้าข่ายเป็นความผิดฐานฟอกเงินทางอาญานั้น เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สิน หรือมีลักษณะปกปิดอำพราง อีกทั้งนักการเมืองคนนี้ยังใช้เงินผ่านบัญชีแม่ของตัวเอง เพราะเมื่อพอลหรือปีเตอร์โอนเงินมายังบัญชีแม่ของนักการเมือง จากนั้นแม่ของนักการเมืองก็จะโอนต่อมายังบัญชีนักการเมือง จึงยืนยันว่าทั้งคู่มีการกระทำความผิดอาญาฐานฟอกเงิน ในข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน
ตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับหมายจับในครั้งนี้ ประกอบด้วย นายวรัตน์พล หรือบอสพอล, แม่ของนักการเมือง ส. และนักการเมือง ส. ขณะที่ดีเอสไอยังมีหมายค้นของศาลสำหรับเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 2 จุด เพื่อตรวจยึดพยานเอกสารและพยานวัตถุ ประกอบด้วย
จุดที่ 1 บ้านพักของนักการเมือง ส. ภายในโครงการบ้านหรูแห่งหนึ่งบนถนนราชพฤกษ์, จุดที่ 2 คอนโดมิเนียมของนักการเมือง ส. บนพื้นที่เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ หากผู้ต้องหาปรากฏตัวตามหมายจับของศาลต่อหน้าเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ให้เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และรวมถึงแจ้งว่าต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัว กระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษให้ผู้ต้องหาได้รับทราบ
รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งพนักงานอัยการ และได้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว (ปท.1) ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ จากนั้นจึงจะได้ควบคุมตัวผู้ต้องหากลับอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ และส่งมอบตัวผู้ต้องหาให้แก่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าของสำนวนคดี ดำเนินการตามกฎหมาย
ขณะที่ในวันนี้ช่วงเวลา 10.00 น. นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล จะพาพยานของบริษัทดิไอคอนฯ กลุ่มแรก จำนวน 200 คน จากทั้งหมด 2,000 คน เข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และขอให้ทำการสอบสวนปากคำพยานทั้ง 200 คนนี้นำเข้าสู่สำนวนคดี เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของ 18 ผู้บริหารบริษัท ดิไอคอนฯ และแผนธุรกิจของดิไอคอนฯ ว่าไม่ได้มีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่ เเละจะได้ทยอยพาพยานที่เหลือเข้ามาพบดีเอสไอรายวันต่อเนื่อง เพื่อให้ทันกรอบเวลาวันที่ 3 ธ.ค.นี้ ก่อนที่ดีเอสไอจะยุติการสอบสวนสำนวนคดี เพื่อเตรียมสรุปสำนวน มีความเห็นทางคดีส่งพนักงานอัยการคดีพิเศษ
อ่านข่าว : DSI จับ "แม่สามารถ" ข้อหาฟอกเงินคดีดิไอคอน