สหรัฐฯ เตรียมรับมือการโจมตีจากเกาหลีเหนือ
นายชัค เฮเกล รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐฯ แถลงว่าเกาหลีเหนือกำลังเข้าใกล้เส้นอันตราย การกระทำและถ้อยแถลงของเกาหลีเหนือไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายลง เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าชาวอเมริกันควรวิตกต่อภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือหรือไม่ พร้อมระบุ สหรัฐฯได้เตรียมความพร้อมรับมือไว้แล้วไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาก็ตาม ขณะที่พลเอกมาร์ติน เดมป์ซี่ย์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมไม่อาจระบุได้ว่าเกาหลีเหนือจะติดหัวรบนิวเคลียร์หรือไม่ แต่ทางกองทัพได้เตรียมความพร้อมรับมือสำหรับกรณีที่เหตุการณ์เลวร้ายที่สุดไว้แล้ว
ด้าน คิม ยุน ฮี อดีตสายลับเกาหลีเหนือ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของออสเตรเลียว่าสาเหตุที่นายคิม จอง อุน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ มีท่าทีแข็งกร้าวและขู่จะทำสงครามกับหลายๆประเทศ เพราะต้องการพิสูจน์ตัวเองต่อกองทัพของเกาหลีเหนือ เนื่องจากนายคิมอายุน้อยและด้อยประสบการณ์เกินไป ทำให้เขามีปัญหาในการควบคุมกองทัพและไม่สามารถทำให้กองทัพภักดีต่อเขาได้ เขาจึงใช้โครงการนิวเคลียร์เพื่อควบคุมประชาชนและกดดันให้เกาหลีใต้กับสหรัฐฯยอมอ่อนข้อ สำหรับสายลับหญิงคนนี้ได้รับคำสั่งจากนายคิม จอง อิล ผู้นำคนก่อนให้ไประเบิดเครื่องบินของเกาหลีใต้เมื่อปี 2530 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 115 คน เธอถูกจับกุมและถูกตัดสินประหารชีวิต แต่ได้รับการอภัยโทษในเวลาต่อมา เนื่องจากศาลเห็นว่าเธอเป็นเหยื่อของการล้างสมอง
สอดคล้องกับความเห็นของซูซานน่า ดิเม็กจิโอ้ รองประธานโครงการนโยบายโลกจากสถาบันเอเชียโซไซตี้ ในนครนิวยอร์คของสหรัฐฯ ที่มองว่านายคิม จอง อุน มีท่าทีที่แข็งกร้าวและอาจจะมีการยิงขีปนาวุธในวันที่ 15 เมษายนซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของนายคิม อิล ซุง ผู้ก่อตั้งประเทศ เพื่อปลุกกระแสรักชาติให้ประชาชนและกองทัพร่วมกันสนับสนุนผู้นำคนใหม่
ทั้งนี้ รัฐบาลเกาหลีเหนือไม่ได้ประกาศว่าจะยิงขีปนาวุธเมื่อไหร่ แต่ได้แจ้งเตือนให้สถานทูตต่างชาติในกรุงเปียงยางอพยพเจ้าหน้าที่ออกนอกประเทศเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ยังเตือนชาวต่างชาติในเกาหลีใต้ให้ออกนอกประเทศเช่นกัน ข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯและเกาหลีใต้ ระบุว่าเกาหลีเหนือได้เตรียมความพร้อมสำหรับการยิงขีปนาวุธมูซูดันเรียบร้อยแล้ว สามารถยิงเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการก่อนวันที่ 15 เมษายนนี้